หยุดกับนิ่ง ขึ้นอยู่กับขยันหรือขี้เกียจ
ถ้าขยันฝึกบ่อย ๆ มีชั่วโมงหยุด ชั่วโมงนิ่ง ชั่วโมงกลาง มันก็ชัดเจน จากมืดก็มาสว่าง
จากสว่างก็มาเห็น
“เห็น” มันต้องเห็นทุกคนนะ
ของมีแล้วก็ต้องเห็น ที่มีแล้วไม่เห็น นี่มันแปลก มันแปลกจริง ๆ ดังนั้นมันต้องเห็นกันนะ
ถ้าหยุดนิ่งได้สนิท
ถ้าเราเห็นคุณค่า เราทราบความสำคัญ
มันจะขยันฝึก ฝึกหยุดฝึกนิ่ง ถ้ายังไม่เห็นความสำคัญเท่าไหร่ คือ เห็นสำคัญบ้าง มันก็ฝึกน้อยหน่อย
เอาเวลาไปทำอย่างอื่นมากกว่า ทั้ง ๆ ที่ตอนสุดท้ายของชีวิต ก็ต้องทิ้งอย่างอื่นหมดเลย
คือจำใจต้องทิ้ง มันเอาติดไปไม่ได้ เพราะว่ามันต้องไปด้วยละเอียด ของที่เราทำน่ะมันของหยาบ
มันหอบเอาไปไม่ได้
แม้แต่กระดูกของตัวเองยังเอาไปไม่ได้เลย
ก็ยังต้องทิ้งให้คนอื่นเขาเก็บเรี่ยราดกันอยู่อย่างนั้น นี่ความจริงของชีวิต ซึ่งไม่ค่อยจะได้คิดกัน
ไม่มีอารมณ์จะคิดกัน แต่มันเรื่องจริง ๆ ที่ทุกคนจะต้องเจอ ไม่มีใครไม่เจอเลย เจออย่างนี้แหละ เรื่องจริง ๆ
ที่ว่าตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้ นอกจากบุญกับบาปติดตัวไป มันก็เป็นความจริงอย่างนี้
แต่ก็ให้ความสำคัญกันไม่มาก
เพราะฉะนั้น ถึงตอนนั้นก็ตัวใครตัวมันกันแล้ว
ใครจะไปตายแทนใครก็ไม่ได้ หรือเก็บเอาไปส่ง เอาไปให้ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าขยันก็หยุดได้เร็ว
หยุดได้คล่อง หยุดได้ชำนาญ สิ่งที่เป็นอจินไตย เหลือเชื่อมันก็จะเป็นกลายเป็นความจริง
เป็นเรื่องธรรมดา
มันธรรมดาสำหรับคนทำได้
แต่ไม่ธรรมดาสำหรับคนทำไม่ได้
ถ้าเอาจริงก็ได้กันทุกคนนั่นแหละ
ไม่จริงก็ไม่ได้กันทุกคน เป็นอย่างนี้นะ
คุณครูไม่ใหญ่
๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๖
วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560