ชาติที่ผ่านมา ถ้าเรารู้ว่า
“เราคือผู้ออกแบบชีวิต” ชาตินี้เราจะมีชีวิตที่สมบูรณ์กว่านี้ จะเป็นไปตามความปรารถนาของเรา
เราจะเป็นผู้มีอุปสรรคน้อย
เพราะเราจะสั่งสมบุญเยอะ
เราจะเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ
ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ปฏิบัติธรรมก็พบพระธรรมกายได้เร็ว จะสมหวังดังใจในทุกสิ่ง ไม่ใช่มีชีวิตที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ผิดหวังบ้าง สมหวังบ้างอย่างนี้
รูปสมบัติ ของเราจะดีกว่านี้มาก จะมีรูปงาม แข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาวเลยอายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์ในแต่ละยุค เพื่อให้โอกาสเราได้สั่งสมบุญได้มาก และได้แก้ไขข้อผิดพลาดที่ผ่านมา เราจะได้รูปสมบัติอย่างน้อยก็อย่างนี้
ทรัพย์สมบัติ เราจะมีทรัพย์สมบัติมาก เพราะเราจะสร้างมหาทานบารมีกันอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง
ไม่ตระหนี่ ไม่หวงแหนทรัพย์ จะทำถูกหลักวิชชาในแหล่งเนื้อนาบุญ ทำทั้งสงเคราะห์ทางโลกและสงเคราะห์ทางธรรม ทั้งก่อนทำ
กำลังทำ หลังทำไปแล้วก็จะปลื้มใจตลอดเวลา
ไม่เสียดายเลย จะไม่ทำด้วยตัวเองตามลำพังเท่านั้น
แต่จะไปชวนคนอื่นมาทำร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้เรามีทรัพย์สมบัติมาก มีบริวารมาก
มีพรรคพวก มีหมู่ญาติที่ดีที่มาช่วยสนับสนุนให้เราได้ประสบความสำเร็จในชีวิต ในธุรกิจการงานได้ง่าย และถ้าบุญมากก็จะได้สมบัติจักรพรรดิ เป็นบรมเศรษฐี
คุณสมบัติ เราจะสั่งสมปัญญาบารมี
ทั้งธรรมทาน วิทยาทาน สนับสนุนการศึกษา เพื่อให้เราได้คุณสมบัติ มีความเฉลียวฉลาดในชาตินี้
แทงตลอดทั้งทางโลกทางธรรม ซึ่งจะทำให้เราอยู่เหนือโลกใบนี้ อยู่เหนือความทุกข์ จะมีความสุขอยู่ตลอดเวลา แล้วก็จะดำเนินชีวิตได้ถูกต้องด้วย
รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ
คุณสมบัติ ดังกล่าวนี้ จะบังเกิดขึ้นได้ ต่อเมื่อเรามีความรู้บรรทัดนี้ว่า “เราคือผู้ออกแบบชีวิต” เพราะความเชื่อนี้จะทำให้เราไม่นอนใจ
หมั่นสั่งสมความดี แต่ถ้าเราคิดว่า ชีวิตนี้พรหมลิขิต ฟ้าลิขิต หรือเทพเจ้าองค์นั้นองค์นี้ลิขิต เราจะนอนใจ ชะล่าใจ
เพราะว่า ยังไงท่านก็ลิขิตเราให้เป็นนั่นเป็นนี่อยู่แล้ว ตรงนี้จะลำบาก คือ เริ่มต้นสบาย
แต่ปลายทางมันลำบาก
เหมือนปากทางเข้ารูงูมันจะลื่น ๆ ลงไปง่าย แต่ลงไปเจองูพิษอย่างนั้นนะ