ถ้าเราจับหลักของชีวิตได้แล้วว่า อะไรคือเป้าหมายของชีวิต การดำรงชีวิตก็จะถูกต้อง
หลักของชีวิต
จะต้องศึกษาจากท่านผู้รู้ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะพระองค์ทรงผ่านชีวิตมาทุกระดับแล้ว
และได้บทสรุปของชีวิตว่า เราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง และพระองค์ก็ทำให้แจ้งแล้วด้วยพระองค์เอง อาศัยพระมหากรุณาทรงแนะนำสั่งสอนทั้งมนุษย์และเทวา มีผู้ประพฤติปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์ได้บรรลุมรรคผลนิพพานกันเยอะแยะ
เกิดมาแล้วต้องจับหลักตรงนี้ให้ได้
อย่าไปจับหลักของผู้ไม่รู้นะ ของผู้ไม่รู้มันก็สะเปะสะปะเรื่อยเปื่อยกันไป
บางคนบอกตายแล้วสูญ บางคนบอกตายแล้วไปอยู่บนสวรรค์บาปกรรมมีมากน้อยเท่าไรทำไปเถอะ อย่างนี้ก็ลุยกันสะบันหั่นแหลกเลย
บางพวกก็บอกว่า ต้องกินต้องดื่มคือหลักของชีวิต ขืนเชื่ออย่างนี้ ได้ไปดื่มในอบาย ๖,๐๐๐ กว่าล้าน ๆ ปีมนุษย์
มันหลากหลาย อันตรายนะลูกนะ
เกิดมาแล้วต้องจับหลักของชีวิตให้ถูกตามผู้รู้ที่ท่านได้สั่งสอน
แต่การที่ใครจะมาได้ยินได้ฟังธรรมของท่านผู้รู้ที่สมบูรณ์อย่างนี้ ก็ไม่ใช่ง่าย ต้องสั่งสมบุญบารมีมามาก
ทำทุก ๆ บุญ แล้วก็อธิษฐาน นิพพานะ ปัจจโย โหตุ คือ ปรารถนาที่จะพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง หรือเกิดอยู่ในร่มเงาศาสนาของท่าน ตอนนี้เราเกิดอยู่ในร่มเงาศาสนาของท่าน อยู่ในคำสอนของท่าน
ถือว่าเป็นผู้มีบุญมาก ๆ
เพราะฉะนั้น
เมื่อเรารู้แล้วว่า เกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง หรืออย่างน้อยก็เกิดมาสร้างบารมี
ก็เหลือแต่เราต้องลงมือทำเท่านั้น ทำบารมี ๑๐ ทัศ ให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ทั้งทานบารมี
ศีลบารมี เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขาบารมี ต้องทำให้ครบถ้วน
บารมี ๑๐
ทัศ พูดแล้วอาจจำยาก จำง่าย ๆ ทาน ศีล ภาวนานี่แหละ ทำให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ทำไปพร้อม
ๆ กัน มากบ้าง น้อยบ้าง เดี๋ยวก็ค่อย ๆ ครบถ้วนบริบูรณ์ไปเอง ทั้งทำด้วยตัวเองแล้วก็ไปชวนคนอื่นเขาทำด้วย ตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่า
เราจะไขว่คว้าเอาแค่ไหน อยากได้แค่ไหน ตักตวงเอา ขวนขวายเอา ตั้งใจทำกันให้เต็มที่ ต้องกระตุ้นเตือนจิตสำนึกเราให้ได้ทุก
ๆ วัน อย่าให้ขาดเลยแม้แต่วันเดียว
คุณครูไม่ใหญ่
๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2562