e-book ทิชากร กงเพ็ชร
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
(ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ ๕ เมษายน พ.ศ.
๒๕๕๕- วันจันทร์ที่ ๑๖
เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕)
หลับฝันเป็นตุเป็นตะตื่นขึ้นมาหาว
๑ ที แล้วนำมาเล่าเป็นนิยายปรัมปรา :
เรื่องราวการสร้างบารมีของตัวลูกทิชากร กงเพ็ชรและครอบครัวในพุทธันดรที่ผ่านมา
ตัวลูกและครอบครัวก็ได้เกิดมาสร้างบารมีร่วมกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะด้วยเหมือนกัน
เรื่องก็มีอยู่ว่า ในพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกได้เกิดเป็นกุลบุตรหนุ่มรูปงาม
ผู้รักความสำราญ เบิกบานใจ อยู่ในครอบครัวใหญ่ ที่มีฐานะดี ในครอบครัวเกษตรกรรมอยู่ในหัวเมืองที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงของแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช
ในภพชาติดังกล่าว ตัวลูกและทุกคนในครอบครัวในภพชาติปัจจุบันนี้ก็ได้เกิดมาอยู่ในครอบครัวเดียวกันเหมือนในชาติปัจจุบันนี้ด้วย
คือยกทีมมาเกิดร่วมกันอีก
อัธยาศัยของตัวลูกในภพชาตินั้น เป็นกุลบุตรหนุ่มเจ้าสำราญ
ผู้รักความสบาย และชอบเที่ยวเล่นหาความสนุกสนานไปวันๆ เป็นเด็กหนุ่มที่ค่อนข้างดื้อรั้น
มีความมั่นใจในตัวเองสูง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เรียกได้ว่าถ้าตัวลูกในภพชาตินั้นตัดสินใจทำสิ่งใดแล้ว ใครก็ขวางตัวลูกไม่ได้
ส่วนน้องชายในภพชาตินั้น หรือพระน้องชายในภพชาติปัจจุบันนี้ จะมีอัธยาศัยที่ค่อนข้างตรงกันข้ามกับตัวลูก
คือ มีความขยันขันแข็ง ใจเย็น สุขุมคัมภีรภาพ และมีความรอบคอบเป็นอย่างมาก
สำหรับกิจการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรของครอบครัวในภพชาตินั้น
คุณพ่อคุณแม่เป็นผู้บริหารจัดการทั้งหมด ท่านทั้งสองจะเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดและยังดูแลเหล่าลูกน้องบริวารของท่านเป็นอย่างดีอีกด้วย
จึงทำให้กิจการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรของครอบครัวมีความเจริญก้าวหน้าและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นไปตามลำดับ
สำหรับส่วนตัวลูกในภพชาตินั้น ด้วยความที่เป็นกุลบุตรหนุ่มเจ้าสำราญ รักความสบาย
และชอบเที่ยวเล่นหาความสนุกสนานไปแบบวันต่อวันนี้เอง จึงทำให้ตัวลูกในภพชาตินั้นไม่ค่อยได้ช่วยกิจการงานของครอบครัวแต่อย่างใด
เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวลูกจึงมักถูกคุณพ่อคุณแม่เรียกมาอบรมและตักเตือนอยู่เป็นประจำ
ซึ่งจะตรงกันข้ามกับน้องชายที่มีความใจเย็น สุขุมลุ่มลึก
และมีความรับผิดชอบในกิจการงานของครอบครัวเป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามโดยภาพรวมแล้วก็นับว่าครอบครัวของตัวลูกเป็นครอบครัวที่อบอุ่น
และมีความรักใคร่กลมเกลียวกันเป็นอย่างมาก
อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนๆ ร่วมก๊วนเจ้าสำราญของตัวลูกได้ทราบข่าวว่า ในขณะนี้ที่เมืองหลวง
ได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองประจำปีขึ้น ซึ่งในงานเฉลิมฉลองประจำปีที่เมืองหลวงครั้งนี้
จะมีงานแสดงการละเล่นและงานมหรสพต่างๆ เป็นจำนวนมาก เพื่อนๆ จึงได้มาชักชวนให้ตัวลูก
ซึ่งเป็นหัวโจกของก๊วนออกเดินทางไปเที่ยวงานเฉลิมฉลองประจำปีที่เมืองหลวงด้วยกัน
เมื่อตัวลูกได้ยินเพื่อนๆ เล่าถึงความน่าสนุกของการไปเที่ยวงานฉลองประจำปีที่เมืองหลวงเช่นนั้น
จิตวิญญาณแห่งความเป็นกุลบุตรเจ้าสำราญในตัวลูกก็ได้ลุกโชนขึ้นมาในทันที
ไม่รอช้ารีบไปขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวงานฉลองประจำปีที่เมืองหลวงในทันที ผลปรากฏว่าท่านทั้งสองไม่อนุญาต
และยังอบรมตัวลูกอีกว่า ทำไมไม่ยอมทำงานทำการเหมือนลูกคนอื่นๆ เขาบ้าง
แต่ตัวลูกก็ไม่ลดละความพยายามในการที่จะไปเที่ยวงานเฉลิมฉลองที่เมืองหลวงกับเพื่อนๆ
ด้วยเหตุนี้เองตัวลูกจึงได้งัดกลเม็ดเด็ดพรายทุกวิถีทาง
เพื่อที่จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ในก๊วนให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการอ้อนวอน หรือการตามตื้อคุณพ่อคุณแม่เพื่อให้ท่านทั้งสองอนุญาต
เป็นต้น แต่ไม่ว่าตัวลูกจะพยายามมากเพียงไรก็ตาม
ความพยายามของตัวลูกในภพชาตินั้นก็ไม่เป็นผล
ด้วยเหตุนี้เองตัวลูกจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะใช้แผนสุดท้าย คือ การแอบหนีคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวนั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตามตัวลูกก็รู้สึกผิดและไม่สบายใจอยู่ตลอดเวลาที่เดินทางไปเที่ยว
ทั้งนี้ก็เป็นเพราะตัวลูกกลัวว่าทุกคนในครอบครัวจะเป็นห่วงนั่นเอง
เมื่อตัวลูกและก๊วนเพื่อนๆ เจ้าสำราญได้เดินทางไปถึงงานเฉลิมฉลองที่เมืองหลวงแล้ว
ตัวลูกและเพื่อนๆ
ก็ได้ไปเห็นนายทหารกลุ่มหนึ่งซึ่งอยู่ในเครื่องแบบเต็มยศกำลังขี่ม้าสีขาว
สวมชุดเกราะแบบครบชุดมุ่งหน้าไปทางประตูของเมืองหลวง ตัวลูกและเพื่อนๆ
ทุกคนก็รู้สึกชื่นชอบและประทับใจในความเท่และความสง่างามของนายทหารกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก
และอยากรู้ว่า นายทหารกลุ่มนี้เป็นใคร ทำหน้าที่อะไร
จึงรีบไปค้นหาคำตอบ ด้วยการไปสอบถามกับพี่ๆ
เจ้าหน้าที่ทหารที่กำลังทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยอยู่ในละแวกนั้นว่า ทหารกลุ่มนี้เป็นใคร
ทำหน้าที่อะไร แล้วถ้าอยากจะเป็นทหารแบบนี้จะต้องทำอย่างไรบ้าง
ซึ่งพี่ๆ เจ้าหน้าที่ทหารก็ใจดี ได้ช่วยตอบคำถามของพวกตัวลูกว่า
ทหารกลุ่มนี้เป็นทหารที่อยู่ในหน่วยรบจู่โจมพิเศษ เป็นทหารที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี
ซึ่งกว่าจะมาเป็นทหารหน่วยรบจู่โจมพิเศษนี้ได้จะต้องผ่านการฝึกที่หนักหนาสาหัสมากๆ
ซึ่งก็จะมีนายทหารเพียงไม่กี่คนที่สามารถผ่านการฝึกนี้ไปได้
เมื่อตัวลูกได้ยินได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับทหารหน่วยรบจู่โจมพิเศษแล้ว
ตัวลูกก็ไม่ได้รู้สึกหวาดหวั่นหรือหวั่นไหวต่อบทฝึกที่โหด หิน ดินระเบิดแต่อย่างใด
ตรงกันข้ามกลับรู้สึกถูกอกถูกใจ และรู้สึกโดนใจตัวลูกแบบสุดๆ เลย เรียกได้ว่า
เป็นชีวิตที่ตัวลูกใฝ่ฝันเอาไว้เลย เป็นชีวิตในอุดมคติเลย
แม้ว่าตัวลูกจะรู้สึกถูกอกถูกใจและอยากเป็นทหารหน่วยรบจู่โจมพิเศษนี้มากขนาดไหนก็ตาม
แต่ด้วยความที่ตัวลูกมีดีกรีเป็นถึงหัวโจกของแก๊งกุลบุตรหนุ่มเจ้าสำราญนี้เอง
ตัวลูกจึงแกล้งทำฟอร์มเป็นเหมือนรู้สึกเฉยๆ และไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเป็นพิเศษ
พร้อมทั้งแอบเก็บซ่อนความรู้สึกปลื้มเอาไว้ในส่วนลึกๆ ของหัวใจแต่เพียงผู้เดียว
พูดง่ายๆ ว่า ทำเป็นเก๊ก
จนกระทั่งเมื่องานเฉลิมฉลองประจำปีที่เมืองหลวงได้จบลง
ตัวลูกในภพชาตินั้นและเพื่อนๆ
แก๊งกุลบุตรหนุ่มเจ้าสำราญก็ได้เดินทางกลับมายังเมืองของตัวเอง
เมื่อตัวลูกเดินทางกลับมาถึงที่บ้านของตัวเองแล้ว ก็ถูกคุณพ่อคุณแม่ว่ากล่าวตักเตือนและสั่งสอนแบบจัดเต็ม
ตัวลูกก็ได้แต่นิ่งเฉยและรับฟังไปเรื่อยๆ เท่านั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะภายในใจของลูกกำลังคิดถึงแต่ภาพของทหารหน่วยรบจู่โจมพิเศษอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
และด้วยความที่ตัวลูกใฝ่ฝันอยากที่จะเป็นทหารหน่วยรบจู่โจมพิเศษแบบมากๆ
นี้เอง ตัวลูกจึงได้เล่าเรื่องราวต่างๆ
เกี่ยวกับทหารหน่วยรบจู่โจมพิเศษนี้ให้น้องชายฟังด้วยความรู้สึกที่อินแบบสุดๆ
แต่น้องชายกลับรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอินตามตัวลูกเลยแม้แต่น้อย
ทั้งนี้ก็เป็นเพราะน้องชายยังมองภาพไม่ออก แต่ไม่ว่าน้องชายจะอินหรือไม่อินก็ตาม
ตัวลูกก็ไม่ได้สนใจ เพราะตัวลูกเพียงแค่ต้องการให้น้องชายได้รับรู้ถึงความรู้สึกประทับใจของตนเท่านั้นก็เป็นพอ
และเมื่อความใฝ่ฝันอยากเป็นทหารหน่วยรบจู่โจมพิเศษปะทุอยู่ในใจของตัวลูกมากเข้าๆ
ในที่สุดตัวลูกก็อดรนทนไม่ไหวได้รีบไปขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่เพื่อที่จะสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารในทันที
เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้ทราบเช่นนั้น ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ
แล้วก็ให้ตัวลูกกลับไปคิดทบทวนดูใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ที่ท่านทั้งสองไม่อนุญาต เพราะท่านทั้งสองมีความเห็นตรงกันว่า
ด้วยลักษณะอัธยาศัยของตัวลูกนั้นไม่น่าๆ ที่จะเป็นทหารได้ เพราะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ
เป็นหัวโจกด้วย แม้กิจการงานของครอบครัว ตัวลูกยังไม่ค่อยจะรับผิดชอบเลย
ถ้าตัวลูกไปสมัครเป็นทหารซึ่งเป็นภาระที่หนักกว่ากิจการงานของครอบครัวตั้งเยอะ
แล้วตัวลูกจะทำได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้เองท่านจึงปฏิเสธ และไม่อยากให้ตัวลูกไปสมัครเป็นทหารนั่นเอง
ด้วยความหวังดีและความเป็นห่วงที่คุณพ่อคุณแม่และพี่น้องทุกคนในครอบครัวมีต่อตัวลูกนี้เอง
จึงทำให้ทุกคนพยายามที่จะพูดจาโน้มน้าวให้ตัวลูกล้มเลิกความคิดและความตั้งใจที่จะเป็นทหารด้วยเหตุผลต่างๆ
นานา แต่ไม่ว่าทุกคนจะพูดอย่างไรก็ตาม ตัวลูกก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว หรือมีความคิดที่จะล้มเลิกความตั้งใจ
ตรงกันข้ามกลับคิดว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ตัวลูกก็จะทำความฝันของให้เป็นจริงให้ได้ แม้ว่าจะต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันก็ตาม และเมื่อตัวลูกตัดสินใจอย่างแน่วแน่เช่นนั้นแล้วจึงได้กลับไปอ้อนวอนและขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่อีกครั้งหนึ่ง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่เห็นถึงความหนักแน่นและความมุ่งมั่นของตัวลูกแล้ว
ท่านทั้งสองจึงไม่อยากที่จะขัดขวางความตั้งใจจริงของตัวลูก
อีกทั้งท่านทั้งสองก็รู้ดีว่า ถึงแม้จะห้ามตัวลูกไปก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด
เพราะด้วยอัธยาศัยของตัวลูกแล้ว แม้ท่านทั้งสองจะห้ามอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าตัวลูกมีความตั้งใจหรือปักธงว่าจะทำแล้วก็จะทำให้ได้อยู่ดีนั่นแหละ
ต่อมาภายหลัง
เมื่อท่านทั้งสองคิดพิจารณาดูแล้วก็เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะบังเกิดขึ้นกับตัวลูกของท่านว่า
ถ้าหากตัวลูกได้ไปเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารแล้ว
ลูกของท่านก็คงจะได้ฝึกฝนตัวเองในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงานเป็นทีม
เรื่องความมีระเบียบวินัย หรือเรื่องความรับผิดชอบ เป็นต้น
ซึ่งก็น่าจะทำให้ตัวลูกมีนิสัยที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ด้วยเหตุผลทั้งหลายเหล่านี้นี่เอง ท่านทั้งสองจึงอนุญาตให้ตัวลูกไปสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารได้ในที่สุด
ซึ่งตัวลูกก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แล้วก็ไม่รอช้า ได้รีบไปชักชวนให้เพื่อนๆ
ในแก๊งไปสมัครเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารด้วยกัน ซึ่งก็มีเพื่อนๆ บางส่วนก็ได้ไปสมัครเรียนพร้อมกับตัวลูกด้วย
เมื่อตัวลูกได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารแล้ว ก็ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนและฝึกฝนวิชาทหารอย่างเต็มที่
แม้บทฝึกจะโหดหรือหนักหนาสาหัสสักแค่ไหนก็ตาม
ตัวลูกก็ไม่ได้รู้สึกย่อท้อเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งมักจะคิดอยู่ในใจเสมอว่า
ก็ในเมื่อคนอื่นๆ ทำได้ แล้วทำไมตัวเราจะทำอย่างเขาไม่ได้
ด้วยความมุ่งมั่นและความพากเพียรอย่างเต็มที่นี้เอง
จึงทำให้ตัวลูกเป็นนักเรียนเตรียมทหารที่มีความรู้ความสามารถในระดับแนวหน้าของกลุ่มเลยทีเดียว
และด้วยความที่ตัวลูกในภพชาตินั้น
มีความรู้ความสามารถในระดับที่หาตัวจับได้ยากนี้เอง จึงได้รับการคัดเลือกให้มาอยู่ในหน่วยรบจู่โจมพิเศษ
ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่ตัวลูกรอคอยและใฝ่ฝันมาโดยตลอดนั่นเอง
สำหรับภารกิจของหน่วยรบจู่โจมพิเศษนั้น
ก็คือการบุกทะลวงและจู่โจมข้าศึกอย่างรวดเร็ว รวมทั้งปฏิบัติการพิเศษที่ทหารทั่วๆ
ไปไม่สามารถทำได้ เช่น
ถ้าหากมีพวกกองโจรฝีมือฉกาจเที่ยวออกอาละวาดปล้นสะดมภ์ชาวบ้าน
แล้วพวกทหารทั่วไปไม่สามารถที่จะจัดการพวกกองโจรเหล่านั้นได้
ทหารหน่วยรบจู่โจมพิเศษชุดนี้ก็จะถูกส่งไปเพื่อปราบปรามและจัดการพวกกองโจรเหล่านั้น
เป็นต้น
ด้วยภารกิจที่เสี่ยงตายนี้เอง จึงทำให้ทหารหน่วยรบจู่โจมพิเศษนี้ต้องผ่านบทฝึกที่โหด
หิน ยิ่งกว่าทหารทั่วไป อีกทั้งยังต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกที่ยาวนานกว่าอีกด้วย
ซึ่งตัวลูกก็ได้ตั้งใจฝึกฝนอย่างเต็มที่จนกระทั่งสามารถเรียนจบหลักสูตรได้ในที่สุด
และก็ได้รับการบรรจุเป็นทหารอยู่ในหน่วยรบจู่โจมพิเศษในทันที ซึ่งตัวลูกก็รู้สึกปลื้มปีติใจและภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่สามารถทำความใฝ่ฝันของตัวเองให้เป็นจริงได้
แล้วตัวลูกก็ไม่รอช้าได้รีบเดินทางกลับไปที่บ้าน
เพื่อไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่และทุกคนในครอบครัว ทุกคนต่างก็รู้สึกดีใจและอัศจรรย์ใจไปพร้อมๆ
กัน ที่ทุกคนรู้สึกเช่นนี้นั้น ก็เพราะทุกคนเห็นว่า
ตัวลูกมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนไป ซึ่งแต่ละสิ่ง
แต่ละอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น ล้วนเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกที่ดูดี
มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ใจเย็นขึ้น อีกทั้งยังมีความสุขุม รอบคอบ และมีเหตุผลมากขึ้นอีกด้วย
เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก และเพราะเหตุนี้เอง ทำให้น้องชายในภพชาตินั้นเกิดความประทับใจ
แล้วก็เกิดแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่อยากที่จะเป็นทหารเหมือนอย่างพี่ชายของตัวเองบ้าง
ด้วยเหตุนี้เอง น้องชายจึงได้ไปขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่
เพื่อที่จะไปสมัครเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารเหมือนอย่างตัวลูก
ด้วยความรักและความห่วงกังวลต่างๆ นานาที่ตัวท่านทั้งสองมีต่อน้องชาย
จึงทำให้ในช่วงแรกๆ ท่านทั้งสองจึงยังไม่อนุญาต แต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง
ท่านเริ่มเห็นประโยชน์จากการฝึกเป็นทหารว่า มีประโยชน์เป็นอย่างมาก
เพราะสามารถเปลี่ยนอดีตหนุ่มเจ้าสำราญ หัวโจกประจำแก๊ง
อย่างลูกชายคนโตของท่านให้กลายมาเป็นนายทหารหนุ่มรูปงามที่เอาการเอางาน
สุขุมรอบคอบ ใจเย็นและมีเหตุผลได้ และในใจลึก ๆ ท่านก็อยากให้ลูกชายของท่านมีอนาคตที่ดีมากกว่านี้
เมื่อท่านทั้งสองคิดได้เช่นนี้จึงอนุญาตให้น้องชายไปสมัครเป็นทหารที่เมืองหลวงของแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช
เมื่อน้องชายได้รับการอนุญาตจากคุณพ่อคุณแม่แล้วก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
ก็ได้ตระเตรียมข้าวของพร้อมกับกราบลาคุณพ่อคุณแม่เพื่อขอศีลขอพร
และเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว น้องชายก็รีบออกเดินทางเพื่อไปตามหาความฝันที่ตัวเขาได้ตั้งใจไว้
นั่นก็คือการไปสมัครเป็นทหารที่โรงเรียนเตรียมทหารในเมืองหลวงของแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช
ภายหลังจากที่น้องชายได้ไปสมัครเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารเรียบร้อยแล้ว
ก็ตั้งอกตั้งใจฝึกฝนทักษะการเป็นทหารอย่างเต็มที่แบบสุดๆ ซึ่งเป็นผลทำให้มีผลการฝึกที่ดีและสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างดีเยี่ยมและแล้วในที่สุด
น้องชายก็ได้รับการบรรจุเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวชได้อย่างสง่างาม
ไม่เพียงเท่านั้น
ด้วยความที่น้องชายของตัวลูกมีคุณสมบัติของความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม กอปรกับบุคลิกของเขาก็เป็นคนที่ใจเย็น
สุขุม ลุ่มลึก รอบคอบ
และมีไหวพริบปฏิภาณในการแก้ไขสถานการณ์ที่คับขันได้เป็นอย่างดี
ด้วยความสามารถที่โดดเด่นนี้เองจึงทำให้ผลงานของน้องชายของตัวลูกเข้าตานายทหารรุ่นพี่ๆ
เข้าอย่างจัง แล้วในที่สุดน้องชายก็ได้รับการเลื่อนขั้น
เลื่อนตำแหน่งให้เป็นนายทหารระดับนายกองในเวลาอันรวดเร็ว
และด้วยความที่น้องชายของตัวลูกเป็นผู้ที่มีความรักความผูกพันและมีความห่วงใยในครอบครัวเป็นอย่างมาก
ตัวเขาจึงเลือกที่จะมาประจำการอยู่ในกองร้อยซึ่งอยู่ในหัวเมืองที่ครอบครัวของตัวลูกอาศัยอยู่
เพื่อที่ตัวเขาจะได้ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติบ้านเมืองไปพร้อมๆ
กับดูแลความเป็นอยู่ของคุณพ่อคุณแม่และทุกคนในครอบครัวอย่างเต็มที่
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง
ตัวลูกซึ่งก็ได้รับการบรรจุให้อยู่ในหน่วยหน่วยรบจู่โจมพิเศษก็กำลังโชว์ฝีไม้ลายมือในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ
ที่ทั้งยาก ทั้งโหด และทั้งหิน กว่าภารกิจของหน่วยรบธรรมดาๆ ได้อย่างดีเยี่ยม
ยกตัวอย่าง เช่น ภารกิจจัดการพวกโจรป่าที่กบดานอยู่บริเวณรอยต่อตะเข็บชายแดนระหว่างแคว้นกันชนฝั่งทิศใต้กับแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช
ซึ่งพวกโจรป่าเหล่านี้
มักจะลอบลักลอบมาปล้นสะดมภ์พวกชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแถวๆ
เขตตะเข็บชายแดนอยู่เป็นประจำ เป็นต้น ซึ่งปัญหาพวกโจรป่านี้
ถือว่าเป็นปัญหาที่เรื้อรังและยืดเยื้อมาอย่างยาวนานแล้ว
แต่ไม่ว่าภารกิจพิชิตโจรป่าที่เรื้อรังและยืดเยื้อมายาวนานจะยากสักแค่ไหนก็ตาม
ทันทีที่ทหารหน่วยรบจู่โจมพิเศษที่ตัวลูกสังกัดอยู่ได้รับมอบหมายให้มาปฏิบัติหน้าที่และดำเนินการจับกุมพวกโจรป่ากลุ่มนี้
ทหารหน่วยรบจู่โจมพิเศษก็สามารถทำภารกิจที่ยากแสนยากนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีแบบสบายๆ
เรียกได้ว่าไม่ว่าภารกิจนั้นจะยากหรือโหดหินจนใครๆ
ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันยากเกินกว่าจะรับได้
แต่สำหรับตัวลูกและหน่วยรบจู่โจมพิเศษแล้วภารกิจเหล่านั้นกลับกลายเป็นภารกิจที่ง่ายๆ
และหมู ๆ ไปในทันทีเลย
ในเวลาต่อมา
ก็ได้เกิดมหาสงครามใหญ่ขึ้นระหว่างแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวชกับแคว้นกันชนฝั่งทิศใต้
ตัวลูกและหน่วยรบจู่โจมพิเศษก็ถูกเรียกตัวให้ถอนกำลังกลับมาที่เมืองหลวง
เพื่อที่ทางส่วนกลางจะได้จัดสรรกำลังและทำการปรับปรุงกองทัพใหม่
และด้วยผลงานอันโดดเด่นที่ตัวลูกในภพชาตินั้นได้กระทำมาโดยตลอด
จึงส่งผลทำให้ตัวลูกได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้ากองร้อยของทหารม้าหน่วยทะลวงฟันในทันที
ซึ่งภารกิจของตัวลูกและทหารม้าหน่วยทะลวงฟันนี้
ตัวลูกและทีมงานทุกคนจะต้องขี่ม้าบุกเข้าไปจู่โจมและเข้าตีแนวหน้าของทหารฝ่ายข้าศึกเพื่อเป็นการหยั่งเชิงบ้าง
เพื่อเป็นการตัดกำลัง
หรือเพื่อเป็นการสร้างความระส่ำระสายให้แก่กองทัพฝ่ายตรงข้ามบ้าง แล้วหลังจากนั้น
ตัวลูกและทีมงานทุกคนก็จะรีบถอยร่นออกมา ก่อนที่กองทหารหน่วยอื่นๆ
ของกองทัพจะบุกตะลุยเข้าโจมตีต่อไปอีกที เรียกได้ว่า
นายทหารในหน่วยนี้จะต้องมีทักษะในการขี่ม้าที่คล่องแคล่วและเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก
อีกทั้งฝีมือการรบบนหลังม้าก็จะต้องเป็นพวกเซียนเรียกป๋าอีกด้วย
เพราะไม่เช่นนั้นภารกิจการปฏิบัติจู่โจมก็จะไม่เป็นผลสำเร็จ
ซึ่งนอกจากภารกิจจะไม่สำเร็จแล้วยังอาจจะต้องพากันตายหมู่อีกด้วย
และด้วยความที่ภารกิจการบุกจู่โจมข้าศึกในแนวหน้าของตัวลูกและทหารม้าหน่วยทะลวงฟันเป็นภารกิจที่ต้องเสี่ยงภัยอันตรายเป็นอย่างมากนี่เอง
จึงเป็นผลทำให้การบุกโจมตี
กองทหารฝ่ายตรงข้ามของพวกลูกในแต่ละครั้งก็จะมีนายทหารลูกน้องของตัวลูก ได้รับการบาดเจ็บหรือล้มตายในระหว่างสงครามอยู่เสมอๆ
แต่ด้วยหัวใจที่เด็ดเดี่ยวและมุ่งมั่นที่จะปกป้องความสงบสุขให้แก่ประชาชนชาวเมืองภายในแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช
ตัวลูกในภพชาตินั้นจึงไม่ปล่อยให้ความเศร้าโศกเสียใจเข้ามาครอบงำหรือเกาะกินจิตใจของตัวลูกเลย
ตรงกันข้ามตัวลูกกลับตั้งสติแล้วก็ระดมความคิดสติปัญญาทั้งหมดมาผสานเข้ากับฝีมือการรบที่เชี่ยวชาญและก็รัดกุม
ซึ่งก็เป็นผลทำให้การตัดสินใจสั่งการกองทหารของตัวลูกมีประสิทธิภาพและมีความแม่นยำอย่างไม่มีที่ติ
แล้วในที่สุดตัวลูกและทีมงานทุกคนก็สามารถปฏิบัติภารกิจในทุกๆ ภารกิจได้สำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี
ในระหว่างที่เกิดมหาสงครามใหญ่
ระหว่างแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวชกับแคว้นกันชนฝั่งทิศใต้นั้น
น้องชายของตัวลูกก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้บังคับการกองร้อย
ประจำการอยู่ที่หัวเมืองที่ครอบครัวของตัวลูกอาศัยอยู่
ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองหลวงของแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช
ซึ่งหัวเมืองแห่งนี้จะไม่ได้อยู่ในแนวปะทะของสงครามระหว่างแคว้น
แต่ถึงกระนั้น หัวเมืองแห่งนี้ก็ได้ทำหน้าที่ที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง
นั่นก็คือเป็นแหล่งเสบียงกรังที่สำคัญของกองทัพ
ซึ่งชาวเมืองที่อยู่ในหัวเมืองแห่งนี้จะมาทำหน้าที่เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรแล้วก็จัดส่งผลผลิตให้กับกองทัพที่กำลังทำสงครามกับแคว้นกันชนฝั่งทิศใต้
ในเวลาต่อมามหาสงครามระหว่างแคว้นก็ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้น้องชายถูกเรียกตัวด่วน
ให้นำกองกำลังทหารบางส่วนมาสมทบกับกองทัพที่กำลังรบกับแคว้นกันชนฝั่งทิศใต้
และเมื่อน้องชายได้นำกองกำลังทหารมาสมทบกับทางกองทัพใหญ่แล้ว
น้องชายและทีมงานทุกคนก็ได้เข้าไปช่วยเสริมกำลังในส่วนของหน่วยรบพลธนูในทันที
สำหรับหน้าที่ของหน่วยรบพลธนูนั้น
จะมีหน้าที่คอยดักซุ่มโจมตีและปลิดชีพของข้าศึกด้วยการยิงธนูจากระยะไกล
มนุษย์จะรบกันเองอย่างนี้
แทนที่จะรบกับข้าศึกที่แท้จริงที่เอากิเลสมาใส่มนุษย์
ที่เขาเป็นฉากหลังเอากิเลสมาใส่มนุษย์ พอใส่ได้แล้วบังคับได้
เขาจะหัวเราะเยาะพญามารเขาจะเป็นอย่างนั้นนะ
แต่ไม่ได้หัวเราะเยาะแบบมนุษย์อย่างนี้นะ คนละแบบกัน
ซึ่งกองกำลังทหารหน่วยรบพลธนูนี้
ถือว่าเป็นทหารหน่วยรบที่สำคัญในการช่วยทำลายกองกระบวนทัพของทหารฝ่ายข้าศึกได้เป็นอย่างดี
ซึ่งน้องชายของตัวลูกในภพชาตินั้นและทีมงานหน่วยรบพลธนูทั้งหมดก็ได้ทุ่มเททำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม
จนกระทั่งในที่สุดแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวชก็สามารถพิชิตชัยชนะเหนือแคว้นกันชนฝั่งทิศใต้ได้นั่นเอง
ภายหลังจากที่สงครามระหว่างแคว้นสงบลง
พระราชาผู้เป็นที่รักยิ่งของมหาชนทั้งหลายก็ได้ตัดสินพระทัยสละราชสมบัติออกผนวช
ซึ่งข่าวการสละราชสมบัติออกผนวชได้แพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็วจนกลายเป็น
ทอล์คออฟเดอะทาวน์ เลยทีเดียว
ซึ่งในตอนนั้น ตัวลูกก็ได้กลับมาประจำการเป็นผู้บังคับการกองร้อยอยู่ที่เมืองหลวงของแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช
และทันทีที่ตัวลูกทราบข่าว ตัวลูกก็รู้สึกสงสัยและอัศจรรย์ใจอย่างมาก ตัวลูกจึงพูดถึงเรื่องนี้กับเพื่อนๆ
และเหล่าลูกน้องนายทหารของตัวลูก
ซึ่งทุกคนต่างก็รู้สึกสนใจและสงสัยอยากที่จะรู้เหมือนกันว่า ทำไมพระราชาผู้เพียบพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างถึงได้ตัดสินพระทัยสละราชสมบัติออกผนวชในพระพุทธศาสนา
ซึ่งก็น่าจะมีอะไรที่ดีและยิ่งใหญ่กว่าการครองราชย์สมบัติอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นพระองค์คงไม่ตัดสินพระทัยอย่างเด็ดขาดที่จะสละราชสมบัติออกผนวชเช่นนี้
เมื่อความสงสัยเกิดขึ้นมาในใจ ทุกคนจึงไม่รอช้า
ได้รีบไปแสวงหาคำตอบด้วยการไปฟังธรรมะกับพระเถระ ผู้สืบทอดธรรมะจากพระมหาเถระ
หรือคุณยายอาจารย์ของเราในภพชาติปัจจุบันนี้ คือ ต้องไปซักถาม ไปฟังธรรม
และเมื่อตัวลูกได้ฟังธรรมจากพระเถระ
ตัวลูกก็เกิดความรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ก็เป็นเพราะตัวลูกรู้สึกว่า เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎแห่งกรรม เรื่องบุญบาป หรือเรื่องนรกสวรรค์ เป็นต้น
เป็นเรื่องที่มีเหตุมีผล และสามารถที่จะพิสูจน์ได้จริง
ยกตัวอย่าง เช่น เรื่องที่ตัวลูกได้ไปฆ่าและทำร้ายทหารฝ่ายตรงข้ามจนทำให้ทหารเหล่านั้นตายไปหลายคน
ซึ่งภายหลังจากที่สงครามจบลงแล้ว แม้ว่าตัวลูกและกองทัพจะรบชนะข้าศึกได้ก็ตาม
แต่ภายในใจลึกๆ ตัวลูกกลับมีความรู้สึกผิดบาปฝังแน่นติดอยู่ในใจเรื่อยมา เป็นต้น
แม้ว่าจะทำเพราะความจำเป็นก็ตาม ก็ต้องเจอวิบากกรรม
ซึ่งหลังจากที่ตัวลูกมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตแล้ว
คือตรองตามได้แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้
บุญเก่าที่ตัวลูกได้เคยบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาก็ได้ช่อง
คือจะไปเชื่อมสอดละเอียดตรงนั้นได้ ทำให้ตัวลูกได้คิด เมื่อได้คิดก็คิดได้ว่า
การบวชเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและเหมาะที่สุดสำหรับชีวิตของเรา
เพราะชีวิตจริงๆ ก็มีเรื่องแค่หยุดกับนิ่งแค่นั้น นอกนั้นเป็นเรื่องเด็กเล่นขายของ
ขายโน่น ขายนี่ เล่นเป็นนั่น เป็นนี่ เป็นลูกนั่น เป็นลูกหนี้ เป็นเจ้านั่น
เป็นเจ้าหนี้ อะไรต่างๆ สารพัด แต่ชีวิตจริงๆ คือ ชีวิตหยุดนิ่งเท่านั้นที่จะทำให้ดับทุกข์ได้
ทำให้พ้นจากความทุกข์ทรมานของชีวิตได้
การบวช เป็นสิ่งที่ดีที่สุด และเหมาะที่สุดสำหรับชีวิต
เพราะจะทำให้เราสามารถสั่งสมบุญสร้างบารมีได้อย่างเต็มที่
อีกทั้งวันเวลาในชีวิตก็เหลือน้อยลงไปทุกทีๆ ดังนั้นถ้าหากเราตัดสินใจออกบวชช้า
ก็จะทำให้ต้องเสียเวลาในชีวิตไปฟรีๆ ดังนั้นเราไม่ควรที่จะรอช้า
ควรรีบตัดสินใจออกบวชในทันที
เมื่อตัวลูกในภพชาตินั้นคิดได้เช่นนี้ ตัวลูกจึงได้ชักชวนเพื่อนๆ
นายทหารให้ออกบวชด้วยกัน ซึ่งก็มีเพื่อนๆ
นายทหารหลายคนที่ได้ตัดสินใจออกบวชพร้อมกันกับตัวลูกด้วย
ชีวิตสมณะเป็นชีวิตที่ปลอดกังวล
ถ้าคนหนุ่ม บวชตั้งแต่หนุ่มได้ จะได้เข้าไปสู่สมรภูมิภายใน
เมื่อฝึกใจหยุดนิ่งได้แล้ว จะได้ชื่อว่า เป็นผู้กล้าที่แท้จริง สำคัญนะ
เมื่อน้องชายของตัวลูก ทราบข่าวว่า ตัวลูกได้ออกบวชตามพระราชาแล้ว
น้องชายก็เกิดความรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาขึ้นมาอย่างจับจิตจับใจ
ที่สามารถเปลี่ยนแปลงพี่ชายสุดเลิฟของเขาจากทหารแห่งกองทัพทางโลกไปเป็นทหารแห่งกองทัพธรรมได้
เมื่อน้องชายมีความรู้สึกเช่นนี้
ตัวเขาจึงมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเดินทางไปฟังธรรมกับพระเถระเพื่อสืบทอดวิชชาต่อจากพระมหาเถระ
หรือคุณยายอาจารย์ฯ ของเราในภพชาติปัจจุบันนี้ ขึ้นมาในทันที
แต่ด้วยความที่น้องชายประจำการอยู่ที่หัวเมือง และมีหน้าที่ที่ต้องดูแลทุกคนในครอบครัวและบรรดาลูกน้องนายทหารในสังกัดทั้งกองร้อย
ด้วยเหตุนี้เองจึงยังไม่มีโอกาสได้มาฟังธรรมกับพระเถระ ผู้สืบทอดวิชชา
ภายหลังจากที่ตัวลูกได้ออกบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
ก็ได้ตั้งใจฝึกตน ทนหิว บำเพ็ญตบะ เป็นพระแท้ ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่
โดยตัวลูกจะใช้วันเวลาทุกอนุวินาทีสั่งสมบุญสร้างบารมีและประกอบความเพียรอย่างกลั่นกล้า
ด้วยความที่ตัวลูกมีอัธยาศัยมุ่งมั่น ทำอะไรทำจริง
แล้วก็ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ตัวลูกมีความมุ่งมั่นที่จะประกอบความเพียรอย่างไม่ลดละ
ซึ่งก็เป็นผลทำให้ใจของตัวลูกค่อยๆ นิ่งขึ้นๆ จนกระทั่งในที่สุด
ใจของตัวลูกก็สามารถหยุดนิ่งอย่างสมบูรณ์ แล้วก็ตกศูนย์เข้าไปถึงดวงธรรมภายในกลางกายที่ชัดใสสว่างได้ในที่สุด
และเมื่อตัวลูกได้เข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกายที่ชัดใส สว่างแล้ว
ตัวลูกก็ได้หมั่นประคองใจ รักษาธรรมะใสๆ ด้วยใจที่เป็นสุขอยู่ตลอดเวลา
เพราะฉะนั้น
การฝึกใจให้หยุดนิ่งจึงเป็นภารกิจที่สำคัญสำหรับการเกิดมาเป็นมนุษย์
เราจะต้องฝึกใจให้หยุดนิ่งให้ได้ อย่างน้อยก็ต้องให้เห็นดวงธรรมใสๆ ภายใน
ถ้าไม่เห็น ขาดทุนชีวิตนะ เกิดมาฟรีชาติหนึ่ง
ในเวลาต่อมา
ตัวลูกในภพชาตินั้นก็ได้เดินทางกลับไปที่หัวเมืองที่ครอบครัวของตัวลูกอาศัยอยู่
ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองหลวงแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช
เพื่อทำหน้าที่ยอดกัลยาณมิตรให้กับคุณพ่อคุณแม่และญาติพี่น้อง
ซึ่งตัวลูกก็สามารถทำหน้าที่ยอดกัลยาณมิตรให้กับคุณพ่อคุณแม่และญาติพี่น้องทุกๆ
คนได้เป็นอย่างดี
จนทำให้สมาชิกทุกคนในบ้านเกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตได้อย่างถูกต้อง
โดยเฉพาะตัวคุณแม่ของลูกนั้น ท่านเลื่อมใสศรัทธาในคำสอนของพระเถระผู้สืบทอดวิชชาเป็นอย่างมาก
และท่านก็อยากที่จะเดินทางไปฟังธรรมกับพระเถระด้วยตัวท่านเอง
ด้วยเหตุนี้เองคุณแม่ของลูกในภพชาตินั้นจึงได้เดินทางมาที่เมืองหลวงของแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวชพร้อมกับตัวลูก
เพื่อที่จะได้ไปทำบุญและฟังธรรมที่วัดป่าของพระมหาเถระ หรือคุณยายอาจารย์ของเรา
หลังจากที่คุณแม่ในภพชาตินั้นได้ไปทำบุญและฟังธรรมที่วัดป่าของพระมหาเถระแล้ว
ท่านก็เกิดความรู้สึกประทับใจและปลื้มปีติในบุญเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เองคุณแม่จึงอยากที่จะมาทำบุญและฟังธรรมที่วัดป่าของพระมหาเถระอีกบ่อยๆ
เมื่อน้องชายของตัวลูกในภพชาตินั้น
ได้รู้ถึงความตั้งใจของคุณแม่เช่นนั้น ด้วยความกตัญญูกตเวที
น้องชายจึงได้พยายามเคลียร์ภารกิจหน้าที่การงาน
แล้วก็หาเวลาพาคุณแม่ไปทำบุญและฟังธรรมที่วัดป่าของพระมหาเถระอยู่เป็นประจำ
เมื่อน้องชายได้ไปฟังธรรมกับพระเถระผู้สืบทอดวิชชาต่อจากพระมหาเถระแล้วก็รู้สึกซาบซึ้งในเรื่องของการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ตัวเขายังมีความปรารถนาอยากออกบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงได้พยายามจัดการเรื่องราวต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อย ทั้งหน้าที่การงาน
เรื่องครอบครัว เป็นต้น และเมื่อภารกิจทุกอย่างสำเร็จลุล่วงอย่างดีแล้ว
น้องชายก็ไม่รอช้าได้ออกจากเรือนเหมือนนกที่จากคอน แล้วก็ออกบวชตามพระพี่ชายในที่สุด
ภายหลังจากที่น้องชายออกบวชแล้ว
ก็ได้ตั้งใจฝึกฝนอบรมตัวเองอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังหมั่นศึกษาเรียนรู้ธรรมะ
และปฏิบัติตามคำสอนของพระอาจาย์และพระพี่เลี้ยงได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย
ไม่มีทิฐิมานะ และมักจะชอบปลีกวิเวก เพื่อไปหามุมสงัด
แล้วก็ทำใจให้สงบอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ
และด้วยอัธยาศัยทำอะไรทำจริง และมีความรับผิดชอบสูงนี้เอง
จึงทำให้น้องชายของตัวลูกได้หมั่นประกอบความเพียรอย่างไม่ถอนถอย
พร้อมทั้งหมั่นประคองใจเอาไว้ที่ศูนย์กลางกายอยู่ตลอดเวลาทั้งภายในรอบและนอกรอบ
โดยไม่ปล่อยให้ใจล่องลอยไปคิดถึงเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ หรือเรื่องราวต่างๆ
ที่ไม่เป็นสาระแก่นสาร
ความหมายของชีวิตที่แท้จริง คือ
หยุดกับนิ่งเท่านั้น ชีวิตจะมีความหมาย ถ้าทุกท่านได้เข้าถึงธรรมกาย
เรื่องนี้สำคัญนะ เพราะฉะนั้นใครยังแข็งแรงอยู่ พึงฝึกใจให้หยุดนิ่ง
ใครที่แข็งแรงน้อยลงไปเรื่อยๆ ก็พึงฝึกใจให้หยุดนิ่ง ก่อนที่กายจะแน่นิ่ง
หยุดนิ่งสำคัญที่สุดเลยสำหรับการเกิดมาเป็นมนุษย์ในแต่ละภพแต่ละชาติ
หลังจากที่น้องชายของตัวลูกในภพชาตินั้นได้หมั่นประกอบความเพียรและประคองใจอย่างถูกหลักวิชชาไปได้ไม่นานนัก
ใจของน้องชายก็สามารถรวมหยุดนิ่งได้อย่างรวดเร็ว แล้วในที่สุดน้องชายก็สามารถเข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกายที่ชัดใสสว่างได้นั่นเอง
เมื่อน้องชายได้เข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกายแล้ว
ทั้งภายนอกและภายในของน้องชายก็ไม่เคยขาดแสงสว่างอีกเลย คือ ภายนอกก็มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
ส่วนภายในกลางกายก็มีแสงสว่างแห่งดวงธรรม
อีกทั้งแสงสว่างแห่งดวงธรรมภายในกลางกายของน้องชายของตัวลูกนั้นยังมาพร้อมกับความสุขที่แท้จริงอันเกิดจากใจหยุดนิ่งอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ใจของน้องชายแช่มชื่น เบิกบาน
และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความบริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลา
เมื่อน้องชายได้สัมผัสถึงความสุขและความบริสุทธิ์ภายในอันเกิดจากใจหยุดนิ่งแล้ว
น้องชายก็เป็นประจักษ์พยานยืนยันด้วยตัวของท่านเองเลยว่า
ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นของจริง ดีจริง
และสามารถเข้าถึงได้จริงหากตั้งใจปฏิบัติอย่างถูกตามหลักวิชชา
ในเวลาต่อมา
ด้วยความที่น้องชายปรารถนาอยากทำหน้าที่ยอดกัลยาณมิตรและเป็นแสงสว่างให้กับคุณพ่อคุณแม่และมหาชนทั้งหลายที่บ้านเกิดของตัวท่านเอง
ด้วยเหตุนี้น้องชายจึงได้ขอรับอาสาที่จะทำหน้าที่ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายที่หัวเมืองที่ครอบครัวของตัวท่านอาศัยอยู่
ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองหลวงแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช
เมื่อน้องชายในภพชาตินั้น ได้ไปประจำอยู่ที่วัดสาขา
น้องชายก็ได้ตั้งใจทำหน้าที่เป็นพระอาจารย์เทศน์สอนและเผยแผ่ธรรมะอย่างเต็มที่เต็มกำลัง
ควบคู่ไปกับการประพฤติปฏิบัติธรรมและประคองใจรักษาธรรมะใสๆ
เอาไว้ที่ศูนย์กลางกายอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งเป็นผลทำให้ธรรมะมีความก้าวหน้ามากขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในที่สุดก็สามารถเข้าถึงพระธรรมกายที่ชัดใสสว่างได้นั่นเอง
ภายหลังจากที่น้องชายได้เข้าถึงพระธรรมกายแล้ว
ก็ได้ตั้งใจทำหน้าที่เผยแผ่ธรรมะด้วยความสุขสดชื่นเบิกบานใจไปจนกระทั่งหมดอายุขัย
เมื่อน้องชายหมดอายุขัยแล้ว
ด้วยความรู้สึกปลื้มปีติใจในบุญที่ตัวท่านได้ตั้งใจทำหน้าที่เผยแผ่ธรรมะอย่างเต็มที่เต็มกำลังมาโดยตลอดนี้เอง
จึงทำให้ใจของน้องชายผ่องใสสว่างไสวเป็นอย่างมาก
แล้วก็ได้เดินทางกลับสู่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ได้อย่างสง่างาม
นักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาทั่วโลกก็จะต้องอย่างน้อยต้องอย่างนี้นะ
ตอนมีชีวิตอยู่ก็มีความสุข จากโลกนี้ไปก็สง่างามและก็ไปอยู่ดุสิตบุรี
วงบุญพิเศษด้วยกัน
ส่วนตัวลูกเองในภพชาตินั้น
หลังจากที่ตัวลูกได้เข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกายแล้ว
ตัวลูกก็ได้ตั้งใจรับบุญช่วยงานเผยแผ่ธรรมะควบคู่กับการประพฤติปฏิบัติธรรมเรื่อยมา
และด้วยความที่ตัวลูกมีความมุ่งมั่นที่จะเข้าถึงพระธรรมกายให้ได้นี้เอง
จึงทำให้ตัวลูกได้แบ่งเวลาให้กับการประพฤติปฏิบัติธรรมมากขึ้น
แล้วก็หมั่นประคองใจรักษาดวงธรรมภายในกลางกายที่ตัวลูกได้เข้าถึงเอาไว้อยู่ตลอดเวลา
ซึ่งก็เป็นผลทำให้ในเวลาต่อมา
ตัวลูกก็สามารถเข้าถึงพระธรรมกายที่ชัดใสสว่างได้ในที่สุด และเมื่อตัวลูกได้เข้าถึงพระธรรมกายแล้ว
ตัวลูกก็มีโอกาสได้มาศึกษาวิชชาธรรมกายกับพระเถระ ผู้สืบทอดวิชชาต่อจากพระมหาเถระ
หรือคุณยายอาจารย์ของเราในภพชาติปัจจุบันนี้ อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ซึ่งก็เป็นผลทำให้ตัวลูกสามารถค้นคว้าธรรมะละเอียดภายในได้ในระดับหนึ่ง
ในเวลาต่อมาพระเถระผู้สืบทอดวิชชาก็ได้มอบหมายให้ตัวลูกในภพชาตินั้น
ทำหน้าที่เผยแผ่ธรรมะอยู่ในเมืองหลวงของแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช
ซึ่งตัวลูกก็สามารถทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมานี้ได้อย่างดีเยี่ยม
จนทำให้มหาชนทั้งหลายเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย
แล้วก็ตัดสินใจออกบวชเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนากันอย่างมากมาย
ซึ่งตัวลูกในภพชาตินั้นก็ได้ตั้งใจทุ่มเททำหน้าที่เผยแผ่ธรรมะด้วยความรู้สึกปลื้มปีติเบิกบานใจ
ควบคู่ไปกับการรักษาธรรมะปฏิบัติที่ตัวลูกได้เข้าถึงไปจนกระทั่งหมดอายุขัย
เมื่อตัวลูกในภพชาตินั้นหมดอายุขัยและละจากโลกนี้ไปแล้ว
ตัวลูกก็ได้เดินทางกลับสู่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่างผู้มีชัยชนะและปลื้มปีติใจไปตลอดเส้นทาง
คือตั้งแต่ก่อนออกจากกายหยาบก็ปลื้มแล้ว จนกระทั่งเดินทางออกจากกายหยาบก็ปลื้ม
และปลื้มไปถึงดุสิตบุรีเทวโลกโน่นเลย
บุพกรรมที่ต้องมาเกิดเป็นผู้หญิง
สำหรับบุพกรรมที่ทำให้ตัวลูกต้องเกิดมาเป็นผู้หญิงในภพชาติปัจจุบันนี้นั้น
ทั้งนี้ก็เป็นเพราะเศษแห่งวิบากกรรมที่ตัวลูกได้เคยทำผิดศีลกาเมฯ
พญามารมันเก่งนะ
เอาความกำหนัดยินดีในกามมาใส่มนุษย์ แล้วแอบหัวเราะหึๆ ถ้ามนุษย์ได้ทำผิดศีลกาเมฯ
ก็เซ็ทโปรแกรมปรับคดีเลย มันไม่ยุติธรรมเลย เมื่อไรถึงที่สุดแห่งธรรมถึงจะยุติ
ต้องถึงที่สุดแห่งธรรม ธรรมที่เป็นกุศล ธรรมที่เป็นอกุศล ธรรมที่เป็นกลางๆ
ต้องไปถึงที่สุดตรงนั้น ที่สุดของกุสลาธัมมา อกุสลาธัมมา อัพพยากตาธัมฯ
ทุกอย่างถึงจะยุติ
ลูกได้เคยทำผิดศีลกาเมฯ ด้วยการแอบไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวก่อนกาลอันควรกับเพื่อนสาวสุดเลิฟ
หรือพูดง่ายๆ ว่า
อยู่กันกินกันแบบสามีภรรยาโดยที่คุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายหญิงไม่ได้รับรู้
และไม่ได้อนุญาต เพราะร่างกายเราได้มาจากท่านนะ เราเป็นกายละเอียดนะ
ท่านให้ร่างกายมาเพื่อเอาไว้สร้างบารมีนะ ก็จะมีสิ่งเหล่านี้คอยบังคับกันอยู่
เรื่องก็มีอยู่ว่า ในหลายๆ พุทธันดรก่อนๆ โน้น
พุทธันดร คือ ช่วงระหว่างพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งถึงอีกพระองค์หนึ่ง ถ้าก่อนๆ
โน้นก็หลายๆ พุทธันดร
ก็ผ่านกาลเวลาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละยุคได้บังเกิดขึ้นหลายพระองค์
ไม่น่าเชื่อเลย มันน่าจะลืมๆ กันไปนะ เพราะเรื่องมันก็เนิ่นนานมาแล้ว
แต่วิบากกรรมไม่อย่างนั้น มันเซ็ทเป็นโปรแกรมไว้เลย แปลว่า พญามารกลัวมนุษย์มากเลย
กลัวมนุษย์ที่ยังแข็งแรงอยู่ อายุยืน ที่ใจหยุดใจนิ่งได้ พญามารกลัวมาก
พยายามทำอะไรก็ได้ ไม่ให้มนุษย์หยุด
วิธีการที่พญามารทำ คือ ทำให้มนุษย์อยาก
ทะยานอยากที่ทำให้ใจไม่หยุดนิ่ง ทำให้ไปติดในเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ
เรื่องสารพัดอย่าง แล้วก็เอาวิบากกรรมบังคับ ทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็ผิดหมด ปรับคดีหมด
มนุษย์จึงเป็นบ่าวเป็นทาสพญามาร
วันใดที่มนุษย์รู้เรื่องราวเหล่านี้ แล้วพร้อมใจกันหยุดนิ่งภายใน
พร้อมใจกันมีความสุข พร้อมใจมีความบริสุทธิ์ พร้อมใจกันเข้าถึงพระธรรมกายในตัว วันนั้นเรามาใช้ศูนย์กลางกายฐานที่
๗ ร่วมกัน คือ ต่างคนต่างนั่ง แต่ใช้ร่วมกันได้
เราลองทดลอง ลูกพระธรรมทายาทก็ดี ลูกธรรมทายาทหญิงก็ดี ยังเป็นกลุ่มเล็กๆ
เหมือนอยู่ในห้องแล็ป เราทดลองเข้าถึงธรรมยกชั้นดูสิ แล้วค่อยขยายเป็นไพลอตโปรเจคก่อนก้าวไปสู่ระดับอุตสาหกรรมโลก
เอามวลมนุษย์ชาติทั้งโลกให้เข้าถึง ทดลองยกชั้นเข้าถึงธรรมสิ ไปพิสูจน์สิว่า
มีจริง ดีจริง เข้าถึงได้จริง และเราได้เข้าถึงแล้วอย่างง่ายๆ วันละสองเวลา หลับตากับลืมตา
ถ้าเรายอมเป็นมนุษย์ต้นแบบในยุคนี้ สามารถเข้าถึงธรรมได้อะไรจะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้
ในยุคนี้
อย่าลืมเรารู้แล้วว่า พญามารกลัวเราหยุดนิ่ง โดยเอาความอยากมาบังคับให้มนุษย์ทะยานอยาก
ความอยากที่ไม่ได้ประกอบไปด้วยปัญญา ที่ประกอบไปด้วยความเพลินไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ
อย่างนั้น แต่อยากให้ใจหยุดนิ่ง อันนี้ไม่ใช่นะ อันนี้อยากของเรา
แต่ถ้าอยากมากก็อดอีกเหมือนกัน ถ้าอยากหยุด ต้องหยุดอยาก
ไปยกชั้นเข้าถึงธรรมนะลูกนะ และเราจะได้เป็นมนุษย์ต้นแบบยุคนี้
และก็ค่อยๆ ขยายความรู้ แนะนำไปเรื่อยๆ
แน่นอนบางคนก็มีเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย กับคนที่เฉยๆ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เราก็สร้างคนให้เห็นด้วยเพิ่มขึ้นๆ
ให้มีพยานยืนยันว่า ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีจริง ดีจริง เข้าถึงได้จริง เราก็ได้เข้าถึงแล้ว
ด้วยวิธีง่ายๆ ง่ายกว่าเอาเส้นผมไปบังภูเขาออกจากลูกนัยน์ตาเราอีก ง่ายกว่านั้นอีกเยอะ
นั่นยังต้องออกแรงเอามือหยิบเส้นผมออก นี่ไม่ต้องเลย แค่เฉยๆ
หลายๆ พุทธันดรโน้น เรื่องก็มีอยู่ว่า ในภพชาติดังกล่าว
คุณแม่ของลูกกับตัวลูกก็ได้เกิดมาเป็นแม่เป็นลูกกันเหมือนอย่างในภพชาติปัจจุบันนี้
ซึ่งตัวลูกในภพชาตินั้นได้เกิดเป็นกุลบุตรสุดหล่อ รักเดียวใจเดียว
อยู่ในครอบครัวที่ทำการเกษตร
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับเมืองหลวงของแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวชในยุคสมัยนั้น
เมื่อตัวลูกในภพชาตินั้นเติบใหญ่เป็นวัยรุ่นแล้ว
ตัวลูกก็ได้เรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในหัวเมืองที่ครอบครัวของตัวลูกอาศัยอยู่
ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ก็จะสอนวิชาทางด้านต่างๆ คล้ายๆ กับในยุคปัจจุบันนี้แหละ เช่น
วิชาทางด้านการเกษตร ทางด้านศิลปะ วิชาคำนวณ เป็นต้น
สำหรับชีวิตประจำวันของตัวลูกในตอนนั้น ก็คือการศึกษาเล่าเรียนตามหลักสูตรทางการศึกษา
โดยคุณพ่อคุณแม่ของตัวลูกก็ยังไม่ได้มอบหมายให้ตัวลูกต้องรับผิดชอบดูแลกิจการงานภายในของครอบครัวมากมายนัก
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ตัวลูกได้ใช้วันเวลากับการเรียนหนังสือและก็อยู่กับเพื่อนๆ
เป็นหลัก
โดยทุกๆ วัน ตัวลูกก็จะไปเรียนหนังสือและเมื่อถึงวันหยุดพักผ่อน
ตัวลูกก็จะได้เข้าไปเที่ยวเตร่เฮฮากับเพื่อนๆ ตามประสาวัยรุ่น
และด้วยความที่ตัวลูกในภพชาตินั้นเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ใจกว้าง และมีน้ำใจ
จึงทำให้ตัวลูกเป็นที่รักและเป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆ ทุกคนเป็นอย่างมาก ซึ่งตัวลูกก็ได้ใช้ชีวิตประจำวันเช่นนี้เรื่อยมา
จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง
มีนักเรียนสาวแสนสวยคนหนึ่งย้ายเข้ามาเรียนร่วมห้องกับตัวลูก
ซึ่งนักเรียนสาวแสนสวยคนนี้เป็นลูกของนายทหารท่านหนึ่งที่ย้ายมาจากเมืองหลวง
เพื่อมาประจำการอยู่ที่หัวเมืองที่ครอบครัวของตัวลูกอาศัยอยู่ ซึ่งอยู่ติดกับเมืองหลวงของแคว้นพระราชาองค์ที่ออกบวชในยุคสมัยนั้น
ทันทีที่ตัวลูกได้พบเห็น
ด้วยความงามที่โดดเด่นโดนใจและสะดุดตาสะดุดใจของตัวเธอนี้เอง
จึงทำให้ตัวลูกเกิดอาการอึ้ง ทึ่ง และตะลึงในความงามของตัวเธออย่างสุดๆ
เรียกได้ว่า ความงามของเธอนั้นทำให้ตัวลูกถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับกระสับกระส่ายเลยทีเดียว
เพราะไม่ว่าตัวลูกจะหลับตา ลืมตา หรือมองไปทางไหนก็เห็นแต่ใบหน้าของเธอ
และด้วยความที่ทุกลมหายใจของตัวลูกมีแต่เธอนี้เอง จึงทำให้หลายๆ
สิ่งหลายๆ อย่างในชีวิตของตัวลูกเปลี่ยนไป เช่น จากแต่เดิมที่ตัวลูกชอบมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
ตัวลูกก็เริ่มมาโรงเรียนเช้าขึ้น เพื่อจะได้เห็นหน้าของเธอคนนั้นก่อนใคร
ในช่วงแรกๆ นั้น ตัวลูกยังไม่กล้าเข้าไปพูดคุย หรือเข้าไปทักทาย
แต่ด้วยความรักและความรู้สึกที่ตัวลูกอยากจะรู้จักเพื่อนนักเรียนหญิงสาวแสนสวยคนนี้ให้มากขึ้น
จึงทำให้ตัวลูกได้รวบรวมความกล้าเข้าไปทักทายและพูดคุยกับเธอ ซึ่งภายหลังตัวลูกก็ได้รู้ว่า
นอกจากอัธยาศัยของตัวลูกและตัวเธอจะแลดูเข้ากันได้ดีแล้ว
เธอยังเป็นลูกสาวของนายทหารที่เพิ่งย้ายเข้ามาประจำการอยู่ที่หัวเมืองของตัวลูกอีกด้วย
แต่ถึงแม้ว่าตัวลูกจะรู้ว่าคุณพ่อของเธอเป็นถึงนายทหารใหญ่ก็ตาม
แต่ตัวลูกก็ไม่ได้ลดละความพยายามและความมุ่งมั่นที่จะยึดครองหัวใจของเธอให้ได้
ด้วยเหตุนี้เอง ตัวลูกจึงคอยเทียวไล้เทียวขื่อ
คอยดูแลเทคแคร์ตามรับตามส่งเพื่อนนักเรียนหญิงสาวแสนสวยคนนี้เป็นประจำ ยังคอยดูแลซื้อข้าวซื้อของหรือซื้อขนมที่เธอชอบมาฝากตัวเธออยู่เป็นประจำอีกด้วย
เรียกได้ว่าตัวลูกพยายามทำแต้มด้วยทุกวิถีทางเพื่อที่จะพิชิตใจของเพื่อนนักเรียนสาวคนนี้ให้ได้
ซึ่งเพื่อนๆ ของตัวลูกในภพชาตินั้นก็จะคอยเป็นกองเชียร์ให้ตัวลูก
และแล้วเรื่องราวความรักความผูกพันระหว่างตัวลูกกับตัวเธอก็เริ่มก่อตัวมากขึ้นเรื่อยๆ
จนในที่สุดทั้งตัวลูกและตัวเธอก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธความรักที่ตัวลูกทั้งสองมีให้แก่กันและกันได้
และแม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานมากๆ
จนกระทั่งตัวลูกและเพื่อนสาวแสนสวยในภพชาตินั้นจบการศึกษาแล้วก็ตาม แต่ความรักที่ตัวลูกทั้งสองมีให้แก่กันและกันก็ยังคงมั่นคงเหมือนเดิม
และที่สำคัญถึงแม้ว่าจะรักกันมากขนาดไหนก็ตาม
แต่ตัวลูกทั้งสองก็ยังไม่เคยแอบไปมีความสัมพันธ์อะไรที่ลึกซึ้งเกินเลยกันแม้แต่นิดเดียว
เมื่อตัวลูกและเพื่อนนักเรียนสาวแสนสวยในภพชาตินั้นได้สำเร็จการศึกษาแล้ว
ตัวลูกก็ปรารถนาอยากที่จะขอเธอแต่งงาน แต่ตัวเพื่อนสาวรู้ดีว่าเรื่องการแต่งงานระหว่างตัวเธอกับตัวลูกนั้นคงจะเป็นไปไม่ได้
เพราะคุณพ่อของเธอได้หมั้นหมายตัวเธอเอาไว้กับลูกชายของนายทหารท่านหนึ่งเอาไว้แล้ว
ซึ่งนายทหารท่านนี้ก็เป็นเพื่อนกับคุณพ่อของเธอ
อีกทั้งคุณพ่อของเธอก็ปรารถนาอยากที่จะให้ตัวเธอแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝากับลูกชายของนายทหารท่านนี้อีกด้วย
ภายหลังคุณพ่อของคนรักของตัวลูกก็ได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่ตัวลูกและลูกสาวของท่านได้มีให้แก่กันและกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้คุณพ่อของเธอจึงได้ตัดสินใจส่งลูกสาวของท่านไปอยู่กับญาติที่เมืองหลวงของแคว้นในทันที
ทันทีที่ตัวเธอได้รู้ว่า
คุณพ่อของเธอกำลังจะส่งตัวเธอไปอยู่กับญาติที่เมืองหลวง
เพื่อยุติความสัมพันธ์ของตัวเธอกับตัวลูกในภพชาตินั้น ตัวเธอก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
และรีบไปบอกเรื่องนี้กับตัวลูกในทันที เมื่อตัวลูกได้ทราบเรื่องนี้ก็รู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เธอต้องจากไปไหนเลย
แต่สุดท้ายตัวเธอก็ไม่อาจที่จะขัดคำสั่งของคุณพ่อของเธอได้
ด้วยเหตุนี้เองในที่สุดคนรักของตัวลูกก็ถูกส่งตัวไปอยู่กับญาติของเธอที่เมืองหลวงแบบกะทันหัน
ซึ่งตัวลูกในภพชาตินั้นก็ไม่ทันได้รู้ล่วงหน้ามาก่อนเลยว่า
คนรักได้เดินทางจากไปอยู่ที่เมืองหลวงแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้
ไม่ว่าตัวลูกจะมาแอบยืนรอ หรือนั่งรอ เพื่อพบเธอที่หน้าบ้านในช่วงเวลาไหนก็ตาม
แต่ตัวลูกก็ไม่เคยได้พบเจอกับเธออีกเลย เรียกได้ว่า ณ ช่วงเวลานั้น
ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดจะออก แม้ตัวลูกจะชะเง้อคอให้ยาว ยาวเป็นยีราฟ
เพื่อมองหาเธอก็ตาม แต่ตัวลูกก็ไม่อาจที่จะเห็นแม้แต่เงาของเธอเลย
ในที่สุดตัวลูกก็ได้ทราบว่า
คนรักได้ถูกคุณพ่อของเธอส่งไปอยู่ที่เมืองหลวงกับญาติของเธอเรียบร้อยแล้ว
ลูกจึงรู้สึกเฮิร์ทหรือเสียใจเป็นอย่างมาก แล้วตัวลูกก็ไม่รอช้า
รีบเดินทางไปตามหาคนรักของตัวลูกที่เมืองหลวงในทันที แล้วในที่สุดด้วยความพยายามของตัวลูกในภพชาตินั้น
จึงทำให้ลูกสามารถสืบหาที่อยู่ของคนรักจนเจอ
ก็ไม่รอช้ารีบไปหาหญิงคนรักที่บ้านญาติของเธอตามเบาะแสที่ได้มาในทันที
เมื่อตัวลูกในภพชาตินั้นได้ไปถึงบ้านหลังนั้นแล้ว
ตัวลูกก็ได้พบกับคนรัก ต่างคนต่างก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เจอกันอีกครั้ง
ซึ่งการพบกันของตัวลูกและตัวเธอในครั้งนี้
นอกจากตัวลูกและตัวเธอจะได้พูดคุยและถามไถ่ถึงสารทุกข์สุขดิบซึ่งกันและกันแล้ว
ด้วยความที่ตัวลูกและตัวเธอไม่ได้พบกันมานานนี้เอง
จึงทำให้ตัวลูกและตัวเธอได้เผลอใจแอบไปมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งฉันชู้สาว
โดยที่คุณพ่อคุณแม่ของเธอไม่ได้รับรู้เลย
ซึ่งหลังจากที่ตัวลูกและตัวเธอได้ตกล่องปล่องชิ้นกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตัวลูกในภพชาตินั้นก็ได้พาตัวเธอกลับมาที่บ้านของตัวลูก จากนั้นตัวลูกก็ได้พาคุณพ่อคุณแม่ของตัวลูกเองไปกราบขอขมาและสู่ขอคนรักกับคุณพ่อคุณแม่ของเธอ
และด้วยความที่คุณพ่อคุณแม่ของเธอได้เห็นถึงความรักและความตั้งใจจริงที่ตัวลูกมีต่อลูกสาวของท่าน
เพราะไม่ทราบว่าจะคิดอย่างไรให้ดีกว่านี้
ด้วยเหตุนี้เองคุณพ่อคุณแม่ของเธอจึงได้อนุญาตและยกลูกสาวของท่านให้ตัวลูกในภพชาตินั้นดูแล
แล้วในที่สุดตัวลูกและตัวเธอก็สมหวังได้แต่งงาน
และได้ใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันแบบ Happy Ending นั่นเอง
แม้ในภพชาตินั้น
ในภายหลังจะ Happy Ending ก็ตาม
แต่มันคนละเรื่องกับกฎแห่งกรรม พญามารก็ได้เซตวิบากกรรมเอาไว้แล้ว
เป็นวิบากกรรมที่ตัวลูกได้ทำผิดศีลกาเมฯ
ด้วยการแอบไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวก่อนกาลอันควรกับเพื่อนสาวสุดเลิฟ
หรือพูดง่ายๆ ว่า อยู่กินกันแบบสามีภรรยา
โดยที่คุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายหญิงไม่ได้รับรู้และไม่ได้อนุญาตในช่วงแรกๆ
ในภพชาติดังกล่าวนี้เอง จึงกลายเป็นวิบากกรรมที่เซตเป็นโปรแกรม บังคับให้ตัวลูกต้องเกิดมาเป็นผู้หญิงนับตั้งแต่ภพชาตินั้นเรื่อยมาเลย
ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ทำชาติเดียว แต่ต้องมาใช้ผลของกรรมอีกหลายชาติ
ซึ่งมันไม่คุ้มเลย
ในภพชาติที่ผ่านๆ
มา แม้วิบากกรรมดังกล่าวจะเริ่มเจือจางเบาบางจนกลายเป็นเศษกรรมแล้ว
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ตัวลูกได้เกิดเป็นผู้หญิงบ้าง ในเวลากรรมเบาบาง
ผู้ชายบ้างสลับไปสลับมา ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า บุญหรือบาปที่มีกำลังได้ช่องส่งผลก่อน
คือ ถ้าบุญบวชที่ตัวลูกได้เคยสั่งสมเอาไว้ได้ช่องส่งผลก่อน
ตัวลูกก็จะได้เกิดเป็นชาย man man แต่ต้องใช้ความ
man man ให้เกิดประโยชน์นะ เดี๋ยวกลับไปเป็น women women อีก สำคัญนะ
ถ้าเศษกรรมกาเมฯ
ดังกล่าวได้ช่องส่งผลก่อน ตัวลูกก็จะเกิดเป็นผู้หญิง
และถึงแม้ว่าในหลายภพชาติที่ผ่านๆ มา ตัวลูกจะได้เกิดเป็นผู้หญิงก็ตาม
แม้เป็นหญิงตัวลูกก็ได้ประพฤติพรหมจรรย์ และเข้ามาสร้างบารมีอยู่ในเขตในกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะมาโดยตลอดเช่นกัน
ส่วนพระน้องชาย
ท่านก็มีผังบวชที่หนาแน่นในระดับหนึ่ง ซึ่งในภพชาติที่ผ่านๆ มา
พระน้องชายของตัวลูกก็ได้บวชสร้างบารมีกับหมู่คณะกับมหาปูชนียาจารย์มาโดยตลอด
แต่แม้มีผังบวชหนาแน่นที่สามารถจะอยู่เป็นพระได้อย่างสบายๆ ไปตลอดชาติก็ตาม
ก็ไม่ควรประมาท
เพราะบางคนที่มีผังบวชหนาแน่น
แต่กลับทำตัวประมาท แกล้งทำตัวเป็นคนบุญน้อย แล้วก็ทำลายผังบวชของตัวเองให้หมดไป บางคนบอกว่า
หมดบุญบวชแล้วไปดีกว่า ที่จริงยังไม่หมด แต่ทำให้ตัวเองหมด
อุปมาเหมือนกับคนที่ฆ่าตัวตายก่อนที่จะหมดอายุขัย คือ ยังมีบุญที่จะมีอายุขัยอยู่
แต่ว่าไปฆ่าตัวตายเสียก่อน ก็ไปเป็นกายสัมภเวสีเร่ร่อน มีบุญที่จะบวชได้ตลอดชาติ
แต่อ้างว่า ผ้าเหลืองร้อน ทั้งๆ ที่ตัวเองร้อนกว่าผ้าเหลือง จึงกลายเป็นสัมภเวสีที่เร่ร่อนไปเรื่อยๆ
ดังนั้น
ในภพชาติปัจจุบันนี้ พระน้องชายก็จะต้องไม่ประมาท
ให้ตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์และประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่เต็มกำลัง เพื่อจะได้ตอกย้ำซ้ำผังแห่งการบวชสร้างบารมีที่ตัวท่านได้กระทำเอาไว้อย่างดีแล้ว
อย่างเช่นในพุทธันดรที่ผ่านมา เป็นต้น ที่พระน้องชายได้บวชสร้างบารมีและเข้าถึงพระธรรมกาย
บวชไปจนตลอดชีวิตเลย
ส่วนตัวลูกเองแม้ในภพชาติปัจจุบันนี้จะเกิดเป็นลูกหญิง
และไม่ได้ออกบวชสร้างบารมีเป็นพระภิกษุเหมือนอย่างในพุทธันดรที่ผ่านมาก็ตาม
แต่ตัวลูกก็สามารถบวชใจและเข้าถึงพระธรรมกายได้
ดังนั้น
ตัวลูกก็จะต้องไม่ประมาทหมั่น นั่งธรรมะให้มากๆ
และอย่าได้มีข้อแม้ข้ออ้างและเงื่อนไขในการนั่งธรรมะว่า เหนื่อยบ้าง ง่วงบ้าง
หรือไม่ว่างบ้าง ไม่มีเวลาบ้าง ไม่มีเวลาจริงๆ ไม่มีในโลก หรือคอยให้พร้อมก่อนบ้าง
จนตายก็ยังไม่พร้อมนะ
เพราะวันเวลาของตัวเรามีอยู่อย่างจำกัด
เดี๋ยวก็วัน เดี๋ยวก็คืน
เมื่อเป็นเช่นนี้ตัวลูกจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมุ่งแสวงหาที่พึ่งภายในให้ได้
เมื่อตัวลูกทำได้เช่นนี้ ตัวลูกก็จะได้สมความปรารถนาดังที่ตัวลูกได้ตั้งใจลงมาเกิดสร้างบารมีบนโลกมนุษย์
นั่นก็คือการได้เข้าถึงพระธรรมกายเหมือนอย่างในภพชาติที่ผ่านๆ มานั่นเอง
จากเรื่องราวสะเก็ดข่าวสั้นทันปรโลกที่ยาวเหลือเกินนี้
ก็สอนให้เราได้รู้ว่าทุกชีวิตล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น
ใครหนอออกกฎนี้มานะ นั่นต้องไปศึกษาตรงนั้นนะ
ดังนั้น
เราจะต้องดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท
ด้วยการประพฤติดีปฏิบัติชอบตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการ ทำทาน
รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา เป็นต้น ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ใส และเมื่อลูกๆ
ได้สั่งสมบุญทุกๆ บุญแล้ว ก็ให้หมั่นตามตรึกระลึกนึกถึงทุกๆ
บุญด้วยความปลื้มปีติอีกบ่อยๆ เพื่อที่บุญนี้จะได้หล่อเลี้ยงใจของลูกๆ
ให้ผ่องใสและสว่างไสวอยู่ตลอดเวลา
ถ้าลูกๆ
ทุกคนทำได้เช่นนี้ ชีวิตการสร้างบารมีของลูกๆ ทุกคนก็จะได้อยู่รอดปลอดภัย
อีกทั้งชีวิตของลูกๆ
ทุกคนก็จะได้พบเจอแต่ความสุขความสำเร็จไปตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม
e-book ทิชากร กงเพ็ชร
วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2564