พระเดชพระคุณหลวงปู่ ท่านเป็นพระต้นวิชชา ที่สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ
เต็มเปี่ยมไปด้วยความบริสุทธิ์ มีดวงปัญญาสว่างไสว และเปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
อีกทั้งศีลาจารวัตร ปฏิปทาที่ท่านมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม และข้อวัตรปฏิบัติของท่านก็งดงามทั้งเบื้องต้น
ท่ามกลางและเบื้องปลาย
ตลอดระยะเวลา ๕๕ พรรษา
ของการบำเพ็ญสมณธรรมในเพศสมณะ
ท่านได้ฝึกฝนอบรมตัวตามพระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด
บริสุทธิ์ บริบูรณ์ จนกระทั่งได้บรรลุวิชชาธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านเป็นผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย และเป็นพยานในการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และท่านได้ปฏิบัติกรณียกิจปราบมารเรื่อยมาจนตลอดอายุขัย ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงได้ชื่อว่าเป็น "พระผู้ปราบมาร"
สาเหตุหลักที่ท่านต้องปราบมารก็เพราะว่า มารเป็นผู้ขวางในการทำความดี
อีกทั้งทำให้สรรพสัตว์ต้องทนทุกข์ทรมาน วนเวียนอยู่ในสังสารวัฏ ไม่อาจที่จะหลุดพ้นจากภพทั้ง
๓ ไปได้
ดังนั้น ท่านจึงมีมโนปณิธานแน่วแน่ ที่จะปราบมารให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ
เพื่อให้หลุดพ้นจากการเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามาร คือ จะต้องทำวิชชาเพื่อกำจัดอวิชชา
เพราะเป็นหนทางเดียวเท่านั้น ที่จะขจัดไปถึงต้นแหล่งแห่งอวิชชา กระทั่งไปดับต้นของพญามารได้ด้วยการทำวิชชาธรรมกาย
หยุดนิ่งอยู่ภายใน
ถ้าพญามารหมดสิทธิ์วันใด โลกและจักรวาลตลอดทั่วธาตุทั่วธรรม ก็จะพบกับความสุขอันเป็นนิรันดร์ในวันนั้น แล้วสิ่งไม่ดีทั้งหลายก็จะยุติ.... ยุติโดยธรรมจึงจะบังเกิดขึ้น
๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
คุณครูไม่ใหญ่
วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2564