เผลอประเดี๋ยวเดียว ถึงฤดูกาลเข้าพรรษากันอีกแล้ว เราจะเริ่มนับวันเข้าพรรษาเป็นวันที่
๑ ใหม่ จะนับถอยหลังไปเรื่อยๆ ว่า เข้าพรรษามาได้กี่วันแล้ว
เพราะว่าจะเป็นพรรษาแห่งการบรรลุธรรมเหมือนทุกๆ ปีที่เราทำผ่านมา พระเห็นพระ
เณรเห็นพระ และโยมเห็นพระ จะต้องเป็นพรรษาอย่างนี้ทุกๆ พรรษา
จะได้ประคับประคองกันให้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว กลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษดุสิตบุรี
เขตบรมพระโพธิสัตว์
ใครได้รับผ้าไตรมหาสมบัติไป
เมื่อรับไปแล้ว เราก็ต้องไปทำให้สำเร็จ อย่างที่เราตั้งใจเอาไว้ด้วยดีแล้ว การทำให้สำเร็จนี้
ไม่ยาก ถ้าเรามีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำให้สำเร็จ เพราะเรารู้ถึงอานิสงส์ หรือวัตถุประสงค์ของการที่เราจะทำกันในคราวนี้ว่า
เพื่อที่เราจะมาช่วยกันทำงานพระศาสนาให้สำเร็จและเป็นทางมาแห่งบุญแห่งบารมีของเราด้วย
เป็นมหาทานบารมีที่จะทำให้เรามีอุปกรณ์ในการสร้างบารมีไปในภพเบื้องหน้า
เมื่อเรามีมโนปณิธานไปสู่ที่สุดแห่งธรรม
ซึ่งการที่จะไปสู่จุดนั้นได้จะต้องมีบารมีมากๆ บารมีจะมากได้ก็ต้องทำ และต้องทำให้มันถี่ๆ
เพื่อที่บาปจะได้ไม่ได้ช่อง และเพื่อผังสำเร็จของเราที่เราตั้งความปรารถนาไว้จะได้หนาแน่นยิ่งขึ้น
ไม่ใช่ว่านานๆ ทำกันสักทีหนึ่ง หรือชะล่าใจว่า เราทำมาตั้งเยอะแล้ว
คนที่พูดว่า
เราทำมาตั้งเยอะแล้ว แสดงว่ายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการสร้างบารมี เพราะว่าชีวิตที่ผ่านมาในภพต่างๆ
นั้น เมื่อเราตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม ยามที่อกุศลเข้าสิงจิต
เราก็ได้กระทำความผิดทั้งกาย วาจา ใจ ต่อเพื่อนมนุษย์ ต่อตัวของเราเอง และต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ก็เป็นวิบากกรรมติดตัวเรามา
เป็นข้อผิดพลาดที่มันติดข้ามชาติกันมา
คอยโอกาสที่จะได้ช่องเพื่อที่จะส่งผล
เพราะฉะนั้นจะมีวิธีป้องกันประการเดียว คือ การสั่งสมบุญ บุญเท่านั้นที่สามารถสู้กับกระแสธารแห่งบาปได้
เว้นจากบุญแล้วอย่างอื่นสู้ไม่ได้
จะใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ก็สู้กับบาปศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ สู้ได้เพียงประการเดียวคือ บุญ
เรายังต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกยาวนาน
กว่าจะไปถึงจุดหมายปลายทาง
เพราะฉะนั้นจึงต้องรีบกอบโกยในการสร้างบุญบารมีกันให้เต็มที่ ยิ่งเรามาเกิดเป็นมนุษย์ในยุคนี้ที่มีอายุขัยเฉลี่ยเพียง
๗๕ ปี หมายความว่า เรามีเวลาอย่างจำกัดในการสร้างบารมี และอย่าคิดเอาเองว่าเราจะมีอายุขัยถึงอายุขัยเฉลี่ยมนุษย์
๗๕ ปี เพราะบางคนอายุไม่ถึงอายุขัยเฉลี่ย บางคนถึง แต่จำนวนที่เกินไปกว่านั้นก็มีในปริมาณน้อย
เราจะอยู่ในประเภทไหนเรายังไม่ทราบเหมือนกัน เพราะฉะนั้นดีที่สุดคือ เราอย่าประมาทในการดำเนินชีวิต
รีบกอบรีบโกย รีบสร้างบารมีกันให้เต็มที่
วันหนึ่งคืนหนึ่งมีแค่
๒๔ ชั่วโมง ถ้าแบ่งเป็น ๓ ช่วง ช่วงหนึ่งนอนหมดไปแล้ว ๘ ชั่วโมง
อีกช่วงหนึ่งบริหารขันธ์ รับประทานอาหาร
ขับถ่าย อาบน้ำ ล้างหน้า
แปรงฟัน ทำภารกิจต่าง ๆ หมดไปอีก
๘ ชั่วโมง ทำงานอีก
๘ ชั่วโมง เราลองถามตัวเองว่า
วันหนึ่งมีเวลาสร้างบุญบารมีกันแค่ไหน เราจะเห็นได้ว่า
มันไม่มากเลย
เพราะฉะนั้นเวลาที่มีอยู่จำกัด
แล้วแต่ละช่วง
ก็ไม่นานเท่าไหร่จนกว่าจะหมดอายุขัย
ดังนั้นเราก็ต้องขวนขวายในการสั่งสมบุญบารมีของเราให้มาก ๆ
เราทำ
เราก็ได้ ใครจะมาทำแทน เราก็ไม่ได้
หรือเขาทำแล้วอุทิศไปให้ เราก็ได้เพียงนิดเดียว ไม่มาก
แล้วเกิดเขาไม่ทำอุทิศไปให้เรา เราก็อด เพราะฉะนั้นดีที่สุดคือ ทำเอง
ทำต้องทำให้ถูกหลักวิชชาด้วย อย่าทำตามลำพัง
เราต้องไปชวนผู้มีบุญทั้งหลายมาร่วมบุญกับเราด้วย เพื่อจะได้เป็นหมู่ญาติ พวกพ้องและเป็นกำลังของเรา อีกทั้งเราจะได้บริวารสมบัติ
ดังนั้น
ผ้าไตรจักรพรรดิมหาสมบัติที่เรารับไปนั้น
ตั้งใจมั่นให้ดีนะลูกนะ
ต้องไปทำให้สำเร็จให้ได้
อย่าไปคำนึงว่า เราจะไปหามาจากที่ไหน
อย่าไปเสียเวลาคิดตรงนี้
คิดอย่างเดียวว่า จะต้องทำให้ได้
ถ้าทำเพียงลำพังไม่ได้ มันไม่สำเร็จตามที่เราตั้งใจไว้ ก็ตั้งเป็นกอง
ไปชักชวนกันให้เยอะๆ ผู้มีบุญทั้งหลายรอคอยเราอยู่ ขอแต่เพียงเดินเข้าไปหาเขาเท่านั้น ไปพูดไปบอก ซึ่งบางคนก็ง่าย บางคนก็ไม่ง่าย มันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่เราเจอกันในทุกๆ บุญ ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย
เพราะฉะนั้น
เราอย่าไปท้อใจ วันนี้เขาอาจจะปฏิเสธ จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เราก็อย่าเพิ่งท้อถอย ก็ต้องทำหน้าที่กัลยาณมิตรของเราต่อไป ทำไปทุกๆ วัน สักวันหนึ่ง บุญเก่าที่เขาทำมาได้ช่อง ใจเขาเปิดขึ้น สิ่งที่เราพูดเราบอก เมื่อวันวานที่ผ่านมาก็ดี มันก็ได้ช่องเจริญงอกงามในใจเขา แล้วเขาก็เกิดกุศลศรัทธา มาร่วมบุญกับเรา
คุณครูไม่ใหญ่
วันอาทิตย์ที่ ๓ กรกฎาคม
พ.ศ. ๒๕๔๘
วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2567