ชีวิตในสังสารวัฏ
มีแต่บุญกับบาปเท่านั้นที่คอยพลัดผันชีวิตเราให้เป็นไปในเรื่องราวต่าง ๆ
มีกฎแห่งกรรมซึ่งเป็นยิ่งกว่ากฎเหล็กทั้งหลายในโลก
ที่คอยบังคับบัญชาสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลายอยู่ ใคร ๆ
ก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ แม้บุคคลนั้นจะเชื่อหรือไม่เชื่อ จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม
ทุกคนล้วนตกเป็นเชลยอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น
ถ้าไม่รู้หรือไม่ได้ศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรมการดำเนินชีวิตในสังสารวัฎอันตรายมาก
ชีวิตจะถูกเขาปั่นเหมือนจิ้งหรีดที่เขาเอามาปั่นหัวเล่น
หรือถูกเขาเอาใส่ครกโขลกให้มีความทุกข์ทรมานตลอดเวลา บังคับให้เราทำไม่ดี
ทั้งทางความคิด คำพูด และการกระทำ
ทั้งบังคับและเอาวิบากมารองรับให้ไปทุกข์ทรมานในอบายอีกยาวนาน
พอหมดกรรมจากอบาย
มาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ ทำให้ลืมเสียอีก ลืมเรื่องราวในอดีต ไม่เห็นเรื่องราวในอนาคต
ไม่รู้เรื่องราวในปัจจุบัน
มีชีวิตอยู่กันไปวัน ๆ ถูกบังคับใหม่ บังคับซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำอีก
ลงไปอีก ขึ้นมาอีก วนเวียนกันอยู่ในสังสารวัฏอย่างนี้
แต่ถ้าหากว่า
เป็นผู้รู้แต่ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม เราก็ยังเป็นประดุจเชลยผู้รู้
แม้จะอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม ก็ยังสามารถประคองชีวิตให้รอดปลอดภัยได้
อย่างน้อยที่สุดก็จะทุกข์น้อยกว่าคนอื่นเขา จะสุขมากกว่าคนอื่น แล้วก็จะท่องเที่ยวอยู่ใน ๒ ภูมิเท่านั้น
คือในมนุษยโลก กับในเทวโลก จากเทวโลกก็ลงมาในโลกมนุษย์ จากมนุษย์ไปเทวโลก
บุญบาปเขาชักใยกันอยู่เบื้องหลัง
เราหนีไม่พ้น
เขาสร้างเรื่องราวอะไรกันมาตั้งแต่เกิด
ให้เป้าหมายเบี่ยงเบน
ไม่รู้เรื่องบุญ เรื่องบาป
ให้ทำบาป
แต่ไม่ให้สร้างบุญ
แล้วก็ให้ไปวุ่นวายกับธุรกิจการงานและครอบครัว
ให้เอาใจไปใช้แก้ปัญหาต่าง
ๆ เพื่อให้หมดเวลากันไป
พอปัญหาผ่อนคลายก็ดึงเอาไปสนุกสนานไปเพลิดเพลิน
แล้วตอนสุดท้ายก็มาตัดสินกันด้วยบุญกับบาป
คุณครูไม่ใหญ่
๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๖
ศึกษาเพิ่ม***ปั่นจิ้งหรีด
วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559