หลวงพ่อเชื่อว่า
มวลมนุษยชาติล้วนปรารถนาความสุข
แต่ส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ไหน
จะเข้าถึงได้อย่างไรจึงพลาดพลั้งไปทำบาปกรรม ซึ่งเป็นทางมาแห่งความทุกข์
กรรมทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว ย่อมให้ผลเสมอ กรรมบางอย่างก็ให้ผลเร็ว
ส่งผลในปัจจุบันนี้ แต่บางอย่างก็ให้ผลช้า จะส่งผลในภายภาคหน้า
ถ้าทำความดีก็จะได้รับผลดี ทำชั่วก็จะได้รับผลชั่ว ผลของบาปจะต้องตามเบียดเบียน
เหมือนล้อเกวียนที่ตามบดขยี้รอยเท้าโค ฉะนั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า...
คนพาล มีปัญญาทราม แม้กระทำกรรมชั่วอยู่
ก็ไม่รู้สึกตัว
เขาย่อมจะเดือดร้อน
เพราะการกระทำของตนเหมือนถูกไฟไหม้ ฉะนั้น
คนพาล แม้ประพฤติชั่วด้วยกายวาจาใจ
ก็ไม่รู้สึกตัวว่า ได้ทำบาปอกุศล เพราะถูกกิเลสครอบงำ ทำให้เป็นคนเขลาเบาปัญญา
กิเลสบังคับให้สร้างกรรม กรรมก็ทำให้มีวิบากเป็นผล
พอถึงเวลากรรมส่งผลก็จะได้รับความเดือดร้อนทุกข์ทรมาน ละโลกไปแล้วก็ต้องตกนรก
กว่าจะมารู้ตัวอีกทีก็สายไปเสียแล้ว
มีเรื่องจริงอยู่เรื่องหนึ่ง ...
นางเรวดี เป็นคนมีความตระหนี่
ชอบว่าร้ายพระภิกษุ นางเป็นภรรยาของนันทิยะ ผู้มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
คราวหนึ่งนันทิยะได้สร้างศาลาจัตุรมุขหลังใหญ่ มีตั่ง มีเตียง
พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน แด่พระภิกษุสงฆ์
ในวันฉลองศาลา
ก็ได้อาราธนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเป็นประมุข
ในขณะนั้นบุญที่ทำก็เกิดขึ้นในศูนย์กลางกาย บรรดาทิพยวิมานอันรุ่งเรือง
วิจิตรตระการตาเต็มไปด้วยรัตนะ ๗ มีความสูง ๑๒ โยชน์ พร้อมด้วยเหล่านางเทพอัปสร ๑,๐๐๐
ได้บังเกิดขึ้น ณ สวรรค์ ชั้นดาวดึงส์
คือ เมื่อเราทำบุญในโลกมนุษย์
วิมานบนสวรรค์ก็เกิดขึ้นทันที รอคอยวันเวลาที่ผู้เป็นเจ้าของจะได้ไปเสวยผลบุญ
ต่อมาวันหนึ่ง
นันทิยะต้องไปค้าขายต่างเมืองหลายวัน จึงให้นางเรวดี ผู้เป็นภรรยาทำแทน
คือให้ทานแทนตัว แต่นางเรวดีได้ให้คนรับใช้นำข้าวสุกและอาหารที่เหลือจากการบริโภคแล้วใส่บาตรพระ
เมื่อพระรับมาแล้ว เห็นว่าเป็นของเหลือเดน ไม่ควรแก่การขบฉัน
จึงนำอาหารส่วนนั้นออก นางเห็นพระทำอย่างนั้น จึงได้โอกาสด่าบริภาษพระภิกษุ
แล้วก็เลิกให้ทาน คือพยายามหาเหตุที่จะไม่ถวายบิณฑบาตแก่พระอยู่แล้ว
เมื่อนางเรวดีเสียชีวิต ยักษ์ ๒ ตน
ได้รับคำสั่งจากท้าวเวสสุวัณ ผู้ปกครองยักษ์ ได้พานางไปดูวิมานของนันทิยะ
นางเห็นวิมานสวยงามก็ขออยู่ในวิมานนั้นด้วย แต่ไม่สามารถจะอยู่ได้
เพราะในครั้งที่เป็นมนุษย์ไม่ได้ทำบุญเอาไว้
บุญเป็นของเฉพาะตน ใครทำคนนั้นได้
ใครไม่ทำก็ไม่ได้
และยักษ์ก็จับแขนของนางคนละข้างฉุดกระชากไปสู่อุสทนรก ซึ่งเป็นขุมบริวารชั้นใน
ล้อมรอบนรกขุมใหญ่แห่งหนึ่ง แล้วยักษ์ก็อันตรธานหายไป นายนิรยบาล ๒ ตนก็ปรากฏขึ้น
มีรูปร่างใหญ่โตมหึมา เข้ามาฉุดลากนางจากขุมนรกที่สกปรกเต็มไปด้วยมูตรและคูตร
มีกลิ่นเหม็นคลุ้ง นางจะต้องรับกรรมอยู่ที่นี่ถึง ๑,๐๐๐ ปีนรก
แล้วนายนิรยบาลก็ได้พรรณนาถึงโทษทัณฑ์ที่จะได้รับให้นางฟัง
นางฟังแล้วก็เกิดความสยดสยองจึงร้องไห้ร่ำพิไรรำพัน
ขอให้นายนิรยบาลโปรดเมตตาพาไปส่งยังมนุษยโลก และตั้งใจว่า
เมื่อกลับแล้วจะตั้งใจสร้างบุญกุศล จะไม่ทำบาปกรรมอีกแม้เพียงเล็กน้อย
นายนิรยบาลส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า
เจ้าเป็นคนใจบาปหยาบช้า ด่าว่าพระภิกษุ เจ้าเป็นผู้ประมาทแล้ว
ตอนนี้จะมาร้องไห้อยู่ทำไม จงเสวยผลกรรมที่เจ้าได้กระทำไว้
เราอนุญาตให้เจ้ากลับไปไม่ได้หรอก
นางก็ขอร้องว่า ถ้าเช่นนั้น
ท่านโปรดเอ็นดู ช่วยไปบอกลูกของฉันด้วยว่า ขอให้เขาจงเร่งทำบุญให้ทาน รักษาศีล
และเจริญภาวนา ส่วนตัวฉันเมื่อพ้นจากทุกข์ที่นี่แล้ว
หากมีวาสนาได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีกก็จะตั้งใจทำบุญกุศลให้มาก จะไม่ประมาทอีกแล้ว
นายนิรยบาลจึงกล่าวว่า แม้คิดได้ในตอนนี้ มันก็สายเกินไปแล้ว
หลังจากนั้นก็นำนางไปลงโทษอย่างแสนสาหัส
เพราะฉะนั้น อย่าประมาทในชีวิตกันนะ
จงเร่งสร้างบุญสร้างกุศลกันให้เต็มที่ เพราะการเกิดมาเป็นมนุษย์เป็นของยาก
ชีวิตมนุษย์ประเสริฐที่สุด เราทุกคนเป็นผู้โชคดีที่รู้ว่า ชีวิตเกิดมาสร้างบารมี
เมื่อโอกาสแห่งการสร้างบารมีมาถึง เราก็ต้องรีบสร้างบารมีให้สุดกำลังความสามารถ
ให้ทุ่มเทชีวิตจิตใจกันให้เต็มที่
อย่ามัวหลงใหลสนุกสนานเพลิดเพลินกับสิ่งที่ไม่เป็นสาระ
แต่ให้ทำทุกวินาทีให้มีคุณค่าด้วยการสร้างบารมี ด้วยการประพฤติปฏิบัติธรรม
เรื่องนรกสวรรค์
เราสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวของเราเอง เมื่อเราเข้าถึงพระธรรมกาย พอเข้าถึงแล้วนี้
ธรรมจักขุ คือ ดวงตาธรรมที่เห็นได้รอบตัวทุกทิศทุกทางจะเกิดขึ้น
ญาณทัสสนะก็จะเกิดขึ้น สิ่งนี้เป็นปัจจัตตัง เข้าถึงแล้วเราก็จะรู้ได้ด้วยตัวของตัวเอง
และเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ จะหายสงสัยได้
เพราะฉะนั้น
นี้คือเป้าหมายที่หลวงพ่ออยากให้ทุกคนในโลกได้เข้าถึงพระธรรมกาย
เพราะพระธรรมกายเท่านั้นจะพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ได้
แล้วความดีงามก็จะบังเกิดขึ้นกับโลก หิริโอตตัปปะก็จะบังเกิดขึ้น ความกลัวต่อบาป
ความละอายต่อการทำบาป ทั้งที่ลับ ที่แจ้ง ก็กลัวผลแห่งบาปกรรมนั้น
จะบังเกิดขึ้นในจิตใจ เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นมาก็จะคุ้มครองโลกนี้ให้อยู่เย็นเป็นสุข
ดียิ่งกว่ากฎหมายบ้านเมืองเสียอีก นี่คือความตั้งใจของหลวงพ่อนะลูกนะ
คุณครูไม่ใหญ่
๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒
วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559