การฝึกใจให้หยุดนิ่งเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่สำหรับชีวิต
เพราะเป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่จะขจัดความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตของเราให้หมดสิ้นไปได้
และเป็นวิธีเดียวที่พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ทรงปฏิบัติกันมา
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทรงเวียนว่ายตายเกิดสร้างบารมีมาเป็นเวลายาวนาน
โดยมีวัตถุประสงค์จะแสวงหาหนทางพ้นทุกข์
เพื่อจะดับทุกข์ แล้วพบสุขอันเป็นอมตะ
พระองค์ทรงแสวงหามาตลอดระยะเวลาที่มาเกิดในโลกมนุษย์ เพราะทรงค้นพบว่า
ไม่ว่าจะไปเกิดเป็นอะไรก็ตาม ชีวิตล้วนแต่มีทุกข์ทั้งนั้น
ครั้งเมื่อเป็นพระบรมโพธิสัตว์ บางพระชาติเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน บางชาติเกิดเป็นชนชั้นต่ำ เป็นชนชั้นกลาง ชนชั้นสูง
เศรษฐี มหาเศรษฐี
ก็เคยเป็นมาแล้วหรือแม้เกิดเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินก็เคยเป็นมาแล้วทั้งนั้น และทรงเห็นว่าชีวิตอย่างนั้น ยังไม่พ้นทุกข์ ต่างมีทุกข์กันไปคนละแบบ
ทุกข์ของยาจกเป็นทุกข์เพราะไม่มี ทุกข์ของเศรษฐีเป็นทุกข์เพราะไม่พอ ทำให้เกิดการแก่งแย่งชิงดี ทั้งทรัพย์สินเงินทอง ลาภ ยศ สรรเสริญ วนเวียนกันอยู่อย่างนี้ จึงเป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลา
นอกจากทุกข์ประจำสังขาร
คือ เกิดแก่เจ็บตาย แล้วยังมีทุกข์ที่จรมาเหมือนอาคันตุกะจรมาอีก
ต้องวุ่นวายตั้งแต่เกิด ดำรงชีพอยู่ จนกระทั่งตายไป เป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลาเลย
เมื่อเห็นอย่างนี้พระองค์จึงแสวงหาหนทางที่จะพ้นจากทุกข์
แล้วก็ทรงพบว่าวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำลายความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องชีวิตของพระองค์ได้
ก็คือ จะต้องรู้แจ้งเห็นจริงในเรื่องราวของชีวิต
ซึ่งต้องเป็นความรู้ที่เกิดจากการเห็นแจ้งเท่านั้น
การที่จะเห็นแจ้งได้นั้น
ต้องอาศัยแสงสว่างในดวงจิต เป็นความสว่างที่ยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว
หรือความสว่างใด ๆ ในโลกทั้งหมด ที่ไม่มีสิ่งใดกำบังได้
แสงสว่างแห่งดวงจิตจะเกิดขึ้นได้ ต่อเมื่อจิตบริสุทธิ์บริบูรณ์จริง ๆ ไม่มีความโลภ
ความโกรธ ความหลง อยู่เลย พูดง่าย ๆ คือ ใจต้องใสบริสุทธิ์ ผุดผ่องจริง ๆ
ความสว่างจึงจะเกิดขึ้น
ความบริสุทธิ์จะมีมาได้
ทั้งจากการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา แต่โดยรวบยอดแล้ว ใจต้องหยุดนิ่ง ต้องพรากจากทุกสิ่ง ปล่อยวางหมด
หยุดนิ่งอยู่ภายในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งเป็นแกนกลางของกาย
แก่นของชีวิตและเป็นทางเอกสายเดียวที่จะนำไปสู่มรรคผลนิพพาน
หากเราได้ศึกษาพระพุทธประวัติ จะเห็นว่าทุกชาติ
พระบรมโพธิสัตว์จะต้องปลีกตัวออกมาแสวงหาที่สงัดกาย สงัดใจ ฝึกทำสมาธิ
ทำใจให้หยุดให้นิ่ง จนกระทั่งหมดอายุขัย
เมื่อละโลกแล้วบางชาติไปเป็นเทวดา
บางชาติเป็นพรหมอยู่นานทีเดียว
แล้วก็ต้องมาเกิดใหม่มาทำใจหยุดใจนิ่ง กลั่นใจ ให้บริสุทธิ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก
จนกระทั่งภพชาติสุดท้ายเมื่อบารมีเต็มเปี่ยมก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีธรรมจักษุ
มีญาณทัสสนะเกิดขึ้น
หายสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปของชีวิต
เพระฉะนั้น
การปฏิบัติธรรม คือการทำจิตให้บริสุทธิ์ เพื่อให้เกิดธรรมจักษุ
และญาณทัสสนะที่จะทำลายความสงสัยทั้งหลายที่มีอยู่นี้ เป็นสิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่กว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด
เพราะนี่คือหัวใจของนักสร้างบารมี ที่มีเป้าหมายจะไปให้ถึงพระนิพพาน
คุณครูไม่ใหญ่
วันอาทิตย์ที่ ๕ กรกฏาคม พ.ศ.๒๕๔๑
วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2559