เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระเทพญาณมหามุนี เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
เรามาเกิดเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง หรืออย่างน้อยก็เกิดมาสร้างบารมี หรือแสวงหาความสุขที่แท้จริง ที่ถูกต้อง ซึ่งทั้งหมดที่เราปรารถนานั้นอยู่ในตัว ไม่ใช่นอกตัวเลย หลักสำคัญก็คือการเข้าถึงพระธรรมกาย ซึ่งเป็นกายตรัสรู้ธรรม เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว
พระรัตนตรัยภายใน เป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง การแสวงหาพระธรรมกายในตัว ก็คือการแสวงหาความพอดี บางทีมีคนถามว่า พอดีนั้นแค่ไหน ตอบยากเหมือนกันนะ แค่ไหนพอดี เพราะเราไม่รู้พอดีมันอยู่ตรงไหน เมื่อไม่รู้จักดี ก็ไม่รู้จักพอ เมื่อไม่ดีก็พร่องไปเรื่อย ๆ เพราะเจอแต่สิ่งที่ไม่ดี ถ้าจะให้ดีต้องรู้จักว่า ดีอยู่ตรงไหน แล้วก็ต้องวางใจให้ถูกดี แล้วก็ให้ถึงดี ถึงจะได้ดี เพราะว่าเข้าไปถึงความพอดี ดีทั้งหมดรวมประชุมอยู่ในพระธรรมกาย เมื่อไปถึงตรงนี้แล้วจึงจะรู้จักพอ คือไม่อยากจะแสวงหาอะไรที่นอกเหนือจากนี้อีกแล้ว
ที่ปัจจุบันเขาแสวงหาไปเรื่อย ๆ เพราะเจอแต่สิ่งที่ไม่ดี ไม่ดีมันก็พร่อง ถมเท่าไรก็ไม่รู้จักเต็ม ถอนเท่าไรก็ไม่รู้จักเตียน กระหายอยู่ตลอดเวลา
แล้วชาวโลกมักจะดับกระหายด้วยน้ำทะเล กระหายที ก็ดื่มน้ำทะเล ดื่มเท่าไรก็ไม่หายหิว ไม่หายกระหาย เพราะมันเค็ม แต่เมื่อไรเจอน้ำฝนเจอน้ำสะอาด เมื่อนั้นถึงจะดับความกระหายได้ ความเร่าร้อนในใจก็เช่นเดียวกัน ความกระหายที่ทำให้ใจของเราพร่องเป็นนิจ จะหมดไปเมื่อเข้าถึงพระธรรมกาย ที่พระธรรมกายดี เพราะว่าท่านเป็นของแท้ เป็นแหล่งกำเนิดแห่งความสุขที่แท้จริงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์
แต่สิ่งภายนอกที่ชาวโลกเขาแสวงหากัน ล้วนตกอยู่ในกฎของไตรลักษณ์ จะเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นสิ่งของ ล้วนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวก็ผุพังไป เมื่อผุพังก็เกิดความทุกข์ แล้วพักเดียวก็หายเห่อ หายเห่อก็หาใหม่ ชีวิตก็พร่องอยู่เป็นนิจ เหมือนตุ่มก้นรั่วอย่างนั้น
ฉะนั้น การที่เราต้องมาแสวงหาพระธรรมกาย ก็คือต้องการแสวงหาจุดแห่งความสมดุลในชีวิต แสวงหาความพอดี เพราะเมื่อรู้จักพอแล้ว ชีวิตก็เต็มอิ่มเต็มเปี่ยม ไม่ปรารถนาสิ่งใดอีกแล้ว เพราะฉะนั้น เราก็ต้องตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมกันต่อไป เพื่อให้สมปรารถนาเข้าถึงพระธรรมกายภายในกันทุกคน
วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559