คำว่า “วิชชาธรรมกาย”
ประกอบไปด้วย ๒ คำ คือ คำว่า “วิชชา” กับคำว่า “ธรรมกาย” คำว่า
“วิชชา” แตกต่างจากคำว่า “วิชา” ในทางโลกที่เราได้เคยศึกษาเล่าเรียนกัน
วิชาทางโลกนั้นเป็นความรู้ที่เกิดขึ้นใน
๒ ระดับ คือ ระดับสุตมยปัญญากับจินตามยปัญญา
สุตมยปัญญา คือ
ความรอบรู้ที่เกิดจากการได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน ได้ศึกษาเล่าเรียนมา เป็นการรู้จำ คือ
จำในสิ่งที่ผู้รู้ไม่ว่าจะมีความรู้สมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ก็ตามได้บันทึกเรื่องราวสิ่งที่รู้เห็นเอาไว้เป็นวิทยาทานให้ได้ศึกษากันสืบต่อมา
จินตามยปัญญา คือ ความรู้ที่เกิดจากการนำมาคิดพิจารณาหาเหตุผลแบบนักคิดทั่วไป
ความคิดบางครั้งถูกบ้างผิดบ้าง นี่เป็นปัญญาใน ๒ ระดับ แต่ปัญญาในพระพุทธศาสนามี ๓ ระดับ
ระดับที่ ๓ คือ
ภาวนามยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการฝึกฝนลงมือปฏิบัติแล้ว ในระดับที่อยู่นอกเหนือเหตุผลธรรมดา
เราจะอาศัยเหตุผลธรรมดามาใช้ไม่ได้เลย
เพราะภาวนามยปัญญาเป็นความรู้ที่เกิดจากการเห็นแจ้ง คือ จิตต้องเกิดดวงสว่างขึ้นมา
และความสว่างนั้นนำไปสู่จักษุ ธรรมจักษุเกิดขึ้นหรือญาณทัสสนะเกิดขึ้น สว่างแล้วจึงเห็น
เห็นแล้วจึงรู้
เพราะฉะนั้น “วิชชา” จึงหมายถึง ความรู้แจ้งที่เกิดจากการเห็นแจ้ง
ความเห็นที่เกิดจากจิตที่บริสุทธิ์จากกิเลสทั้งหลายแล้ว เกิดปัญญาบริสุทธิ์ รู้เห็นไปตามความเป็นจริง รู้ทั่วถึง
รู้พร้อม แล้วก็รู้ไปสู่เป้าหมาย ถ้าเราศึกษาคงเคยได้ยินคำว่า
อภิญญายะ สัมโพธายะ นิพพานายะ คือรู้ได้ทั่วถึง รู้พร้อม รู้ไปตามความเป็นจริงและถูกต้อง
เหมือนของที่อยู่ในที่มืดดึงมาอยู่กลางแจ้งเราก็จะเห็นชัดเจน
เช่น เชือกเปียกน้ำ ถ้าอยู่ในที่มืด ๆ
บางทีเราอาจจะคิดว่า เป็นงู หรือเป็นตัวอะไรที่มันยาว ๆ
หรืออาจจะเป็นเชือก ต้องใช้สมมติฐานด้นเดาถูกบ้างผิดบ้าง แต่ว่าเมื่อลากมาอยู่กลางแจ้งก็รู้ชัดว่า นี่แค่เชือกเปียกน้ำเท่านั้น
คำว่า “ธรรมกาย” ในพจนานุกรม แปลว่า หมวดหมู่แห่งธรรม เขาแปลได้แค่นั้น คือ ธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์รวมประชุมกันเรียกว่า หมวดหมู่แห่งธรรม
มีนักศึกษาชาวตะวันตกสองสามีภรรยาเขาได้ค้นคว้ารวบรวมความหมายของคำว่า
ธรรม ที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกได้ ๕๐ กว่าความหมาย มีความหมายหนึ่งที่น่าสนใจ เขาบอกว่า ธรรม มีลักษณะเป็นดวงกลม ๆ ใส ๆ สว่าง ๆ และมีตัวตน เพราะฉะนั้น “ธรรมกาย” คือ
กายที่ประกอบไปด้วยธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ รวมประชุมเกิดเป็นก้อนกาย
เป็นกายที่มีลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ
เพราะฉะนั้น
“วิชชาธรรมกาย” ก็คือความรู้แจ้งที่เกิดจากการเห็นแจ้งด้วยธรรมจักขุ แล้วก็รู้ได้ด้วยญาณทัสสนะของธรรมกายนั่นเอง นี่เป็นเรื่องสำคัญ
วิชชาธรรมกายเกิดขึ้นได้ด้วยธรรมกาย เป็นที่ประชุมรวมอยู่ตรงนั้น มีอยู่ในกลางกายของมนุษย์ทุกคน
มีมาดั้งเดิมตั้งแต่ดึกดำบรรพ์โน้น เริ่มต้นเมื่อไรไม่มีใครทราบ
การที่เราเคารพกราบไหว้บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะพระองค์ทรงบรรลุวิชชาธรรมกายก่อน แล้วก็ได้ทรงนำมาเปิดเผยกระทั่งมีผู้ตรัสรู้ตามพระองค์ เป็นพยานในการตรัสรู้ธรรมมากมาย แต่หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ๕๐๐ ปี ความรู้ยิ่งนี้ก็หายไปคงเหลือไว้แต่ชื่อ คือ คำว่า “ธรรมกาย” ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ในทางพระพุทธศาสนาในนิกายต่าง
ๆ ทั้งวัชรยาน มหายาน และเถรวาท แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ธรรมกายนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร
จนกระทั่งเมื่อ
๘๔ ปีที่แล้ว พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
ท่านได้สละชีวิตปฏิบัติธรรมกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกาย ณ วัดโบสถ์บน บางคูเวียงนนทบุรี
ความลับนี้จึงได้เปิดเผยออกมาสู่ชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง
หลวงพ่อวัดปากน้ำ
ภาษีเจริญ ท่านบวชเมื่ออายุ ๒๒ ปี บวชได้หนึ่งวัน รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่งก็ปฏิบัติธรรมแล้วก็ศึกษาทางด้านปริยัติ
ศึกษาหมดทุกสำนักแต่ว่าไม่ได้สอบเป็นมหาเปรียญ รู้ว่าสำนักไหนมีครูดี ชำนาญในพระไตรปิฎกท่านก็จะไปศึกษาทุกหนทุกแห่ง
ศึกษาด้วยตัวเองด้วย จากครูบาอาจารย์ตามสำนักต่าง ๆ ด้วย
แล้วในที่สุดท่านก็สรุปว่า ความรู้จะสมบูรณ์ได้จะต้องประกอบไปด้วย
๓ ป. คือ ปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ ปริยัติก็คือการศึกษาด้านทฤษฎีต้องอ่านต้องศึกษา ท่านอ่านหมดในพระไตรปิฎก แล้วก็ปฏิบัติด้วยตนเองเรื่อยมา ไม่ว่างเว้นในการปฏิบัติเลยแม้แต่วันเดียว
รู้ข่าวคราวว่าครูไหนสำนักไหนมีการปฏิบัติ ก็ยอมตนเข้าไปเป็นศิษย์ไปศึกษา ได้เข้าถึงที่สุดแห่งความรู้ของครูบาอาจารย์
ซึ่งได้แค่ดวงสว่างปรากฏอยู่แล้วครูก็ชวนท่านช่วยกันสั่งสอนศิษย์เช่นเดียวกับครูบาอาจารย์ของท่าน
แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำมีความคิดว่า ความรู้แค่นี้เหมือนหางอึ่งนิดเดียว
จะไปเป็นครูเขาได้อย่างไร ท่านก็กราบลามาด้วยความเคารพ แล้วก็แวะเวียนไปศึกษาวิธีการต่าง
ๆ ที่มีปรากฏอยู่ในวิสุทธิมรรค ๔๐ วิธีก็ศึกษากันมาทั่วหมดทุกสำนัก
แต่ก็ยังไม่จุใจเพราะท่านมีความรู้สึกว่า ยังไม่ถึงจุดของความรู้ตามที่ได้ศึกษาภาคปริยัติมา
ในที่สุด หลังจากที่ศึกษาทั้งทฤษฎีและปฏิบัติตามสำนักต่าง
ๆ มาจนย่างเข้าพรรษาที่ ๑๑ ของการบวช
ในกลางพรรษาขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๐ ท่านก็ได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่า
วันนี้เป็นไงเป็นกัน ถ้าหากว่า ไม่ได้บรรลุธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบรรลุจะไม่ลุกจากที่
จะนั่งปล่อยชีวิตอย่างนี้เรื่อยไป แม้เนื้อเลือดจะแห้งเหือดหายไป เหลือแต่กระดูกหนังช่างมัน
ถ้าไม่รู้ไม่เห็นธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ตายเถอะ นี่เป็นความอัศจรรย์ของภิกษุหนุ่มวัย
๓๓ ปีซึ่งยังไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรเลยเกี่ยวกับหนทางไปนิพพาน ได้ศึกษาแต่พระปริยัติ
แล้วในที่สุดวันนั้นตามประวัติที่ท่านได้บันทึกเอาไว้ ท่านได้ทำความเพียรที่วัดโบสถ์บน
บางคูเวียง ปัจจุบันนี้ในโบสถ์นั้นก็ยังมีพระพุทธรูปองค์ดั้งเดิมอยู่ ที่นั่งก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไม่ราบเรียบ
ท่านก็เลือกเอามุมหนึ่งเป็นสถานที่นั่งสมาธิตัดสินใจยอมสละแม้ชีวิต เอานิ้วจุ่มน้ำมันก๊าดเพื่อจะขีดวงกันมดที่ไต่ตามช่องแตกของพื้นหินไม่ให้มารบกวน
แต่ขีดไปได้ครึ่งหนึ่งท่านก็นึกละอายใจว่า
สละชีวิตแล้วยังมากลัวมดอีกจึงตัดสินใจหลับตาปล่อยชีวิตไปเลย
ท่านบอกว่า ค่อนคืนทีเดียวจึงได้บรรลุถึงธรรมกาย
บรรลุถึงธรรมกายแล้วท่านก็บอก โอ้! มันยากอย่างนี้นี่เอง มันต้องดับก่อนแล้วจึงเกิด
คือ ใจต้องหยุดต้องนิ่งเสียก่อน ถูกส่วนถึงจะเห็นไปตามลำดับ เห็นไปได้ ๕ กายจนกระทั่งถึงกายธรรม
พอถึงกายธรรมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเข้าก็รู้ว่านี่แหละ คือ กายธรรม เป็นกายตรัสรู้ธรรมอยู่ศูนย์กลางกายฐานที่
๗ ท่านตรวจตราดูทบทวนดูอย่างดีทีเดียว
จนกระทั่งมั่นใจว่า
นี่ถูกทางพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ท่านก็ทบทวนทำความเพียรไปทั้งคืน จนกระทั่งติดอยู่ในกลางท่าน แล้วต่อมาท่านก็เห็นในญาณทัสสนะว่า จะมีผู้บรรลุธรรมกายตามท่านอยู่ที่วัดบางปลา
อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
ภายในพรรษานั้น ท่านก็ทบทวนแล้วก็ศึกษาวิชชาธรรมกายด้วยธรรมกายภายในกลางกายเรื่อยไป ในที่สุดออกพรรษาแล้วก็ได้ไปที่วัดบางปลา มีผู้บรรลุธรรมตามท่าน เป็นพระภิกษุ ๓ รูป ฆราวาส ๔ ท่าน ตามที่ท่านได้เห็นในญาณทัสสนะ แล้วก็เริ่มเผยแผ่ธรรมเรื่อยมาจนกระทั่งได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ
ภาษีเจริญ
เพราะฉะนั้น การที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ
ภาษีเจริญ ได้ค้นพบ “วิชชาธรรมกาย” ทำให้พวกเราทั้งหลายรู้จัก “ธรรมกาย” ว่ามีอยู่ในกลางกายของมนุษย์ทุกคน เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด และเป็นเป้าหมายของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ที่ต่างเกิดมาก็เพื่อแสวงหาธรรมกาย เพราะฉะนั้นหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จึงเป็นบุคคลสำคัญที่มีพระคุณต่อชาวโลกและเป็นบุคคลที่ควรแก่การเคารพบูชาเป็นอย่างยิ่ง
คุณครูไม่ใหญ่
วันอาทิตย์ที่ ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๔
วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
Related Posts
ร่มธรรม
ถ้าไม่มีพระเดชพระคุณหลวงปู่พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
พระผู้ปราบมาร คิดแล้วหวาดเสียว หนาวยิ่งกว่ายืนอยู่บนยอดเ
ธรรมกายคือเป้าหมายชีวิต พระเดชพระคุณหลวงปู่
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปรา
พระผู้ปราบมารพระเดชพระคุณหลวงปู่ ท่านเป็นพระต้นวิชชา ที่สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ
เต็มเปี่ยมไปด้วยความบริสุทธิ์ มีดวงปัญญาสว่างไสว และ
ใบไม้ในป่าประดู่ลาย
การศึกษาวิชชาธรรมกายนั้น
เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้ง จิตต้องบริสุ
มัชฌิมาปฏิปทา
มัชฌิมาปฏิปทา เริ่มต้นที่
“ปฐมมรรค"
ถ้าพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ
ไม่ค้นกลับคืนมาให้
เราก็ไม่มีวันได้รู้จัก
ถ
วิชชาธรรมกาย
วิชชาธรรมกายเป็นเรื่องลึกซึ้ง
ถ้าเข้าถึงธรรมกายแล้ว
อย่างน้อยก็ไปนรก ไปสวรรค์
ไปนิพพานได้
จับมือถือแขนสัต
ธรรมกาย คือเป้าหมายชีวิต
พระเดชพระคุณหลวงปู่พระมงคลเทพมุนี
(สด จนฺทสโร) เมื่อท่านได้บรรลุวิชชาธรรมกาย
เข้าถึงธรรมกายแล้ว ตรวจตราดู
แสวงหาธรรมกายดีกว่าแสวงปริญญา
วิชชาธรรมกายสำคัญมาก ๆ จำเป็นมาก ๆ
สำหรับชีวิตที่เกิดมาเป
พระคุณของหลวงปู่วัดปากน้ำ
ลูก ๆ ที่รักทั้งหลาย พระเดชพระคุณหลวงปู่วัด
รู้ได้ด้วยธรรมกาย พอถึงกายธรรมแล้ววิชชาก็จะเกิด
วิชชา ๓ บุพเพนิวาสานุสติญาณ จุตูปปาตญาณ และอาสวัก