ลูกพระธรรมทายาททุกรูป ทุกศูนย์อบรม
ให้ตั้งใจใช้ทุกอนุวินาทีให้เป็นไปเพื่อการฝึกตน ทนหิว บำเพ็ญตบะ เป็นพระแท้
ตอนนี้เรามีความเสมอภาคกันแล้ว
เพราะว่าเรามาเป็นสายโลหิตแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว มีความเสมอภาค ที่เราจะเจริญศีล
สมาธิ ปัญญาให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป จนกระทั่งกลายเป็นอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา คือ จากศีลที่เราปฏิบัติรักษาพระธรรมวินัยอย่างดี
ก็จะไปเข้าถึงดวงศีลภายใน ศีลที่เห็นได้
ศีลที่จำได้อย่างหนึ่ง ศีลที่เห็นแจ้งได้อีกอย่างหนึ่ง
นี่แหละเขาเรียกว่า “อธิศีล” ศีลยิ่งกว่าปกติ ในระดับเห็นได้ เป็นตัวเป็นตนได้
เมื่อเห็นได้ ก็รักษาได้ ไม่อย่างนั้น คำว่า รักษาศีลจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
ถ้าไม่เห็น จะไปรักษาตรงไหน และศีลจริง ๆ ที่เป็นอธิศีลเกิดขึ้นตรงไหน
จะรักษาได้อย่างไร จะเป็นศีลที่ยิ่งๆ ขึ้นไปที่พระอริยเจ้าท่านสรรเสริญ
จักร ๔ คือ นั่ง นอน ยืน เดิน ทวารทั้ง ๙ คือ ปาก ๑ จมูก ๒ ตา ๒ หู ๒
ทวารหนัก ทวารเบา ยังใช้การได้ดีอยู่ไหม เอามาใช้ในการฝึกตน ทนหิว บำเพ็ญตบะ
เป็นพระแท้ให้ได้ทุกอนุวินาทีนะลูกนะ เพราะเรามีเวลาจำกัดเหลือเกิน
วันคืนล่วงไปล่วงไป ลูกพระธรรมทายาททุกรูปทำอะไรกันอยู่ ต้องบวชให้ได้ ๒
ชั้นนะลูกนะ แล้วก็ต้องยกชั้นเข้าถึงธรรมให้หมดเลย มาบวชกี่รูป ก็ต้องยกชั้นให้ได้ทุกรูป
ให้เป็นรุ่นประวัติศาสตร์ รุ่นยกชั้น ลูกพระธรรมทายาทรุ่นมหัศจรรย์ที่จะฟื้นฟูประเพณีการบวชเข้าพรรษาที่อยู่ตลอดทั้งพรรษาด้วยความสุขใจ ปีติใจ มีความสุขหล่อเลี้ยงใจ
และก็อยู่รับกฐิน ออกเดินธุดงค์ เราจะเป็นรุ่นประวัติศาสตร์
เพราะฉะนั้น ลูกพระธรรมทายาททุก ๆ รูป ต้องบวชให้ได้อย่างน้อยต้อง ๒ ชั้นนะ นึกเมื่อไรเราก็จะได้ปลื้มปีติสุข สุขใจทุกครั้ง
แล้วก็ต้องปลื้มทุกอนุวินาทีเลย ทำทุกอย่างให้ดีกว่าดีที่สุด สำคัญนะ
ทั้งข้อวัตรปฏิบัติกิจวัตรกิจกรรมเราทำด้วยความปีติสุข ทำให้ดีที่สุด เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำนั้นล้วนเป็นทางมาแห่งบุญของตัวเรา
แล้วก็ถึงแด่โยมพ่อโยมแม่ ผู้นำบุญ หมู่ญาติ สรรพสัตว์ทั้งหลาย
คุณครูไม่ใหญ่
๑๐
พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔
วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2564