หมั่นตอกย้ำเป้าหมายการบวช
วันนี้เป็นวันแรกของการอยู่จำพรรษาตามพระธรรมวินัย
กำหนดขอบเขตที่ท่านพระครูปลัดภูเบศ ฌานาภิญโญ ท่านได้บอกไว้ ต้องจำนะลูกนะ
นั่นคือขอบเขตการอยู่จำพรรษาตลอดพรรษานี้
เราเข้ามาบวชแล้ว วัตถุประสงค์หลักของการบวช คือ การทำพระนิพพานให้แจ้ง
แสวงบุญ สร้างบารมี จะสลัดตนให้พ้นจากกองทุกข์
นี่คือวัตถุประสงค์หลักของการเข้ามาบวช ไม่ว่าจะบวชช่วงสั้น
หรือช่วงยาวก็ตาม เป็นสิ่งที่เราต้องระลึกนึกถึงเอาไว้
เราจะได้ไม่ประมาท เราจะขวนขวายที่จะทำตัวของเราให้เป็นพระที่สมบูรณ์ขึ้น
ให้ได้เป็นเนื้อนาบุญ เป็นอายุพระศาสนา แล้วบรรลุวัตถุประสงค์ของการมาบวช
ซึ่งจะมีอานิสงส์
สำหรับตัวเราเองได้บุญถึง ๖๔ กัป
ที่ปิดอบายภูมิ แล้วบุญนี้ก็ถึงแก่โยมพ่อ โยมแม่ หมู่ญาติ
โยมพ่อโยมแม่ได้ไปครึ่งหนึ่ง หมู่ญาติหรือผู้ที่เขามาร่วมอนุโมทนา บุญก็ลดหลั่นกันลงไปตามลำดับ
บุญบวชช่วยตัดรอนวิบากกรรม
ชีวิตที่ผ่านมาในสังสารวัฏ เราได้ดำเนินชีวิตผิดพลาดกันมาทุกชาติ มากบ้าง น้อยบ้าง
บางชาติก็มาก บางชาติก็น้อย เราได้บุญที่เราอุปสมบทกันแต่ละชาติไปตัดรอนวิบากกรรมต่างๆ จากหนักเป็นเบา เบาเป็นหายกันไป นี่เป็นเรื่องปกติในสังสารวัฏ
ที่ยังสู้กันอยู่ระหว่างบุญกับบาป พระกับมาร กุศลธรรมกับอกุศลธรรม
เมื่อเราได้ศึกษาเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต
บางอย่างเราก็นึกไม่ถึง ยกตัวอย่างเมื่อคืนนี้ว่า ภพในอดีตของเจ้าของเคส ก็ไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้ ทั้งยังได้บวชตลอดชีวิตด้วย แต่ชาตินี้กลับมาเกิดเป็นผู้หญิงเพราะกรรมเจ้าชู้จากหลายๆ
ชาติ ที่ดำเนินชีวิตผิดพลาดผ่านมา มารวมส่งผลกัน
คือ
พญามารเขาพยายามรวบรวมข้อผิดพลาดเหล่านี้ เตรียมที่จะส่งผลตลอดทุกอนุวินาที
หากได้ช่องเมื่อไรก็สอดละเอียดเมื่อนั้น ทำให้ชาตินี้ต้องมาเป็นผู้หญิง ทั้งๆ ที่ถ้าเราศึกษาชีวิตช่วงสั้นๆ ที่ผ่านมา ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ไม่เจ้าชู้ บวชตลอดชีวิต แต่ชีวิตพลิกผันไปเป็นผู้หญิง ที่พูดอย่างนี้ เพื่อให้เราได้ข้อคิดว่า มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาของชีวิตในสังสารวัฏ เราจะดูเบาไม่ได้เลยในการกระทำทั้งปวง
ฝึกตัวเป็นพระแท้
ตอนนี้ลูกทุกรูปได้มาบวชแล้ว ให้ตั้งใจฝึกฝนตัวของเราให้เป็นพระที่สมบูรณ์ อันนี้เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของเรา เพื่อตัวของเราเองเป็นหลัก เราจะได้อานิสงส์ของการบวช คือ
มีความสุขในเพศสมณะ มีความปีติสุข และภาคภูมิใจกันไปวันต่อวัน
วันนี้ปีติภาคภูมิใจว่า เราได้บำเพ็ญสมณธรรม
โดยมีเป้าหมายจะทำพระนิพพานให้แจ้ง แม้ยังไม่แจ้ง ยังไม่สมหวังก็ตาม
เราก็ยังได้ชื่อว่า เราเข้าข่ายในการเป็นเนื้อนาบุญ และอายุพระศาสนา จะมีปีติ มีความสุขกันไปทุกๆ วัน และภาคภูมิใจว่า เราเป็นพระที่ดีจริงๆ นึกถึงตัวเองแล้ว เราไม่มีอะไรที่จะทำให้เราแหนงใจ
มีแต่ความรู้สึกปลื้มใจ ปีติใจว่า คนอย่างเราทำความดีได้ขนาดนี้ เพราะฉะนั้นบุญก็จะเกิดขึ้นทุกวัน
เหตุที่พุทธศาสนาอ่อนแอ
ผลทางอ้อมก็ถึงพระศาสนา
ซึ่งในช่วงนี้ก็เหมือนยุคที่ผ่านๆ มา
ที่พระพุทธศาสนาจะอ่อนแอลง ยิ่งห่างไกลจากต้นศาสนาก็ยิ่งอ่อนแอลงมาเรื่อยๆ
โดยเฉพาะในยุคนี้อ่อนแอมาก เพราะว่าชาวพุทธห่างเหินจากพระพุทธศาสนา
โดยมีจุดเริ่มต้นจากนักบวชห่างเหินจากพระพุทธศาสนาก่อน
เมื่อพุทธบุตรห่างเหินจากพุทธศาสนา ก็ไม่มีปีติ ไม่มีความภาคภูมิใจ บุคลิกลักษณะของความเป็นพระสูญหายไป ซึ่งอยู่ในสายตาของญาติโยม และของมนุษย์เทวดาทั้งหลาย พอเขาเห็นแล้วเขาไม่ปลื้ม ไม่น่าเลื่อมใส เขาก็ไม่เข้าวัด และยิ่งพระไม่ได้ศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ก็ไม่มีอะไรจะสอนโยม โยมก็มีความรู้สึกว่า เข้าวัดมาแล้วไม่ได้อะไร ก็จะทำบุญไปตามประเพณีเท่านั้น
ความห่างเหินระหว่างพระกับโยมก็มีมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน
กระแสกิเลสที่ท่วมทับลงมาในจิตใจของชาวโลกก็เพิ่มขึ้น
ออกมาตามสื่อต่างๆ ซึ่งมีทุกยุค
สื่อสีคล้ำ สีดำอะไรต่างๆ เรื่อยมา
ยิ่งทำให้ทั้งพระทั้งโยมห่างเหินจากพระพุทธศาสนา ความอ่อนแอจึงเกิดขึ้น
ยุคของเรา
พุทธศาสนาจะต้องเฟื่องฟู
การที่เราได้มาเกิดในยุคนี้
ก็เหมือนยุคที่ผ่านๆ มา
หมู่คณะเราจะลงมาเกิดในช่วงที่พระพุทธศาสนาย่ำแย่ อ่อนแอ เพื่อฟื้นฟูให้กลับขึ้นมา
แล้วอยู่กันไปได้อีกระยะหนึ่ง
นอกเหนือจากฟื้นฟูพระพุทธศาสนาแล้ว ยังลงมาปราบมารด้วย ปราบต้นเหตุของผู้ที่ปล่อยกระแสกิเลสอาสวะมาบังคับบัญชาสรรพสัตว์ทั้งหลายและสรรพสิ่งทั้งปวง
เรามาเพื่อการนี้
ถึงแม้ว่าในอดีตที่ผ่านมาในทุกๆ
กัป ทุกๆ ยุค พระพุทธศาสนาจะต้องหมดไปสักวันหนึ่ง แล้วสิ่งที่ไม่ใช่คำสอนที่เป็นประโยชน์ ที่เรียกว่า
อสัทธรรม บังเกิดขึ้นมามากมาย ซึ่งเป็นปกติธรรมดาของทุกๆ กัปอย่างนี้ แต่ว่าเมื่อเราลงมาเกิดเป็นหมู่คณะอย่างนี้ เราจะต้องพยายามยืดอายุพระพุทธศาสนาให้ยาวให้มากที่สุด
เท่าที่จะมากได้ และจะต้องไปรื้อผังที่ทำให้พระพุทธศาสนาหมดไปจากโลกใบนี้
และรอคอยการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อๆ ไป
ภารกิจที่สำคัญ
ด้วยเหตุนี้
เราจึงมีภารกิจที่สำคัญสำหรับตัวเราและส่วนรวม
ตัวเราจะต้องขวนขวายในการปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายในตัว
ถึงพระรัตนตรัยในตัวของเราให้ได้
พระรัตนตรัยในตัว แม้มีอยู่ แต่หากเรายังไม่ขวนขวายฝึกฝนตัวของเราให้หยุดนิ่ง
ก็เข้าถึงไม่ได้ เมื่อเข้าถึงไม่ได้ มีก็เหมือนไม่มี
เพราะฉะนั้น
ในช่วงเข้าพรรษา อย่าปล่อยให้พรรษานี้ผ่านไป
เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องขวนขวาย หมั่นฝึกฝนอบรมตนของเรา
- ต้องห่างไกลจากสิ่งที่เป็นข้าศึกต่อการกุศล
และพรหมจรรย์
- ต้องขวนขวายฝึกใจให้หยุดนิ่งในทุกๆ
อิริยาบถ
ทำควบคู่ไปกับภารกิจประจำวัน ไม่ว่าจะ นั่ง
นอน ยืน หรือเดิน เราได้รับมอบหมายจากหมู่คณะ ทำกิจวัตรกิจกรรม การศึกษา
การบำเพ็ญบุญ ฉลองศรัทธาญาติโยม ทำหน้าที่พระอาจารย์ หรือที่นอกเหนือจากนี้
จะต้องทำควบคู่กับการปฏิบัติธรรม คือฝึกใจให้หยุดนิ่ง ตรึกระลึกนึกถึงดวง หรือองค์พระใสๆ ภายในตัวเรา ทำเพียงแค่นี้ก็ได้ชื่อว่า
มีสติ รักษาสติ รักษาความเป็นพระเอาไว้
รักษาสมณสัญญา
การเป็นพระจะพลาดพลั้ง
พลาดท่า เสียท่าก็ตอนที่ขาดสติ ความรู้สึกสำนึกว่าเป็นพระ
หรือสมณสัญญามันหมดไป แต่ถ้าเมื่อไรเราตรึกนึกถึงพระในตัว แม้ว่าจะรัวๆ รางๆ หรือนึกไม่ออกก็ตาม
แต่ยังมีความรู้สึกว่า ความเป็นพระมีอยู่ในตัว
ก็ยังได้ชื่อว่า เราได้รักษาสมณสัญญา และความเป็นพระจะเกิดขึ้นเองเลยโดยธรรมชาติ ไม่ใช่ว่าเราต้องฝืน ต้องพยายาม หรือตั้งใจจะเป็นพระ แต่แค่รักษาใจให้หยุดนิ่ง นึกถึงพระในตัว ความรู้สึกว่าเป็นพระ และความเป็นพระจะเกิดขึ้น
จะขยายออกไปสู่ภายนอก นั่นคือสิ่งที่เราและโยมจะเกิดความปีติและภาคภูมิใจ
เราจะภาคภูมิใจว่า เราเป็นพระ
โยมก็จะภาคภูมิใจว่าอยู่ใกล้พระ ได้เคารพสักการบูชาพระ ได้ฟังธรรมจากพระ
อย่าปล่อยเวลาให้สูญเปล่า
พรรษานี้ก็เช่นเดียวกับพรรษาที่ผ่านมา มีเวลาเท่ากัน อย่าให้เวลาแต่ละวันผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์นะลูกนะ
ให้หมั่นสั่งสมบุญกันไปทุกๆ วัน อย่าให้ขาดเลยแม้แต่เพียงบุญเดียว ทั้งทาน ศีล ภาวนา
อย่างน้อยก็ให้ครบถ้วนบริบูรณ์อย่างนี้
ซึ่งเราจะเริ่มนับจากวันนี้เป็นวันเริ่มต้นนับหนึ่งกันไป
ยิ่งโดยเฉพาะช่วงนี้มีโครงการทหารร้อย
ที่เปิดโอกาสให้ลูกทุกรูป ได้เข้าร่วมโครงการ
ถ้าใครว่างก็ไปนั่งปฏิบัติธรรมที่ศาลาจาตุมหาราชิกา เวลา ๔ ทุ่มถึงเที่ยงคืน ๒ ชั่วโมงนี้ ใจจริงแล้วหลวงพ่ออยากให้ลูกทุกรูปสามารถทำวิชชาได้นะ
อันนี้เป็นความหวังลึกๆ แต่ความหวังของหลวงพ่อจะสมปรารถนาได้ก็ต่อเมื่อลูกทุกรูปร่วมมือด้วย
แต่เรามีภารกิจประจำวันมากมาย ขึ้นอยู่กับการขวนขวายของเรา
ถ้าพูดถึง บุญบารมี หรือผังเดิมของเราที่มีอยู่ เราสามารถเข้าถึงวิชชาธรรมกายได้ ที่จะไปรู้เห็นวิชชาที่พระเดชพระคุณหลวงปู่
คุณยายอาจารย์ และทีมงานของท่าน ได้รู้ได้เห็นในยุคนั้น หรือยุคก่อนๆ ขึ้นอยู่กับการขวนขวายของเรา
เพราะฉะนั้นก็เป็นสิ่งที่หลวงพ่ออยากให้พวกลูกทุกรูปได้รับทราบกันนะ
ขออำนวยอวยพร
และอนุโมทนาบุญที่ลูกทุกรูปได้มาถวายปัจจัยไทยธรรมเป็นมหาทานบารมี
กับความตั้งใจจริงที่จะมาบวชเป็นเนื้อนาบุญ เป็นอายุพระพุทธศาสนา
มาทำพระนิพพานให้แจ้ง มาแสวงบุญสร้างบารมี
ขอให้ความปรารถนาที่ดีของลูก
ทุกรูปประสบความสำเร็จเป็นอัศจรรย์ภายในพรรษานี้ ให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง อย่าเจ็บ อย่าป่วย อย่าไข้ ให้ปลอดกังวลจากสิ่งที่เป็นข้าศึกต่อการกุศลและพรหมจรรย์
ให้มีมหาสติ มหาปัญญา มีดวงปัญญาที่จะคุ้มครองตัวเองให้เป็นพระแท้ เป็นเนื้อนาบุญ เป็นอายุพระศาสนา เป็นที่เคารพสักการบูชาของมนุษย์
ของเทวดาทั้งหลาย
ถ้าลูกจะไปทำหน้าที่เป็นพระอาจารย์
ให้ธรรมทานแก่ผู้มีบุญในสถานที่ใดก็ตาม ขอให้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์ มีเดช
มีอานุภาพ จะแสดงธรรมก็ให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของมนุษย์ทุกคน
จะเดินทางไกลเพื่อไปปฏิบัติศาสนกิจก็ให้ปลอดภัย
ให้บุญหล่อเลี้ยงรักษา ให้ได้รับการต้อนรับอย่างดีเยี่ยมในทุกสถานที่
ให้เทวดา พรหม อรูปพรหม พระนิพพาน ได้ปกปักรักษาลูกทุกๆ รูปในทุกสถานที่ ทั้งภายในอารามนี้
นอกอาราม และทุกหนทุกแห่ง ให้ปลอดภัยจากสิ่งที่เป็นข้าศึกต่อการกุศลและพรหมจรรย์
ขอให้การปฏิบัติธรรมของลูกทุกๆ
รูป ภายในพรรษานี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้ใจหยุดนิ่ง สงบ เยือกเย็น ตั้งมั่น
สงัดจากกาม และจากบาปอกุศลกรรมทั้งปวง ให้ละวิตก วิจาร เข้าถึงปีติ สุข เอกัคคตา
ได้รู้เห็นวิชชาธรรมกาย ตั้งแต่ได้เห็นดวงธรรมภายใน เห็นกายภายใน เห็นกายมนุษย์ละเอียด
กายทิพย์ กายพรหม กายอรูปพรหม ได้เข้าถึงพระธรรมกายโคตรภู กายธรรมพระโสดาบัน กายธรรมพระสกิทาคามี
กายธรรมพระอนาคามี กายธรรมพระอรหัต ได้ศึกษาวิชชาธรรมกายให้ได้ทุกๆ รูป จงทุกประการเทอญ
----------------------------------
เรื่อง : ฝึกตนเป็นพระแท้
โดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
ผู้ฟัง : พระภิกษุ / สามเณร
สถานที่ : อุโบสถ วัดพระธรรมกาย จ. ปทุมธานี
ในโอกาส : วันเข้าพรรษา
เมื่อ : วันศุกร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
เวลา : ๐๙.๐๐ - ๑๐.๐๐ น.
วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2565