ทำอย่างไรเราจะรักษาใจให้ใสได้ตลอดทั้งวัน
แม้กระทั่งเวลาที่เราโดนกระทบหรือยั่วเย้าให้เกิดอารมณ์
คุณครูไม่ใหญ่:
ถ้าเรารักตัวเอง
อยากให้ตัวเรามีความสุข ก็ต้องรักษาใจให้ใส ๆ เอาไว้ สิ่งที่สำคัญก็คือต้องอาศัยการฝึกสมาธิบ่อย ๆ
ฝึกฝนให้ใจหยุดนิ่งอยู่ภายในตัวให้ได้ตลอดเวลา
ฝึกให้ชำนาญ ทั้งวัน ทั้งคืน ทั้งหลับ ทั้งตื่น นั่ง นอน ยืน เดิน ฝึกบ่อย
ๆ จนกระทั่งหลับตา ลืมตา นั่ง นอน ยืน เดินให้เห็นดวงใส ๆ หรือดวงตะวันใส ๆ
อยู่กลางกายตลอดเวลา ใจจะได้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น
ไม่ส่งออกไปข้างนอก เพราะฉะนั้นสิ่งใดมากระทบมันก็ไม่กระเทือน
หรือใครมายั่วเย้าให้เกิดอารมณ์ก็จะรู้สึกเฉย ๆ อีกทั้งยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่เขามายั่วเย้าเรา
ให้เขาอยากจะใจใสตามเราไปด้วย
ถ้าใจเราใสอยู่ แล้วเขามาทำลายเราด้วยการมายั่วยุให้เราเกิดอารมณ์โกรธ และเราไปร้อนตามเขา ถ้าเป็นอย่างนี้เราจะไปสร้างแรงบันดาลใจ
จะไปช่วยให้เขาใจใส ๆ และมีความสุขอย่างเราได้อย่างไร
เพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่า ทำที่เรา ก็ได้ที่เพื่อน ได้ที่คนรอบข้าง ซึ่งตรงนี้ต้องฝึก เพราะฉะนั้นปฏิบัติธรรมเข้าถึงดวงใส
ๆ แล้ว หรือเข้าถึงแสงสว่างภายในแล้วต้องหมั่นรักษาเอาไว้ให้ชัดใสสว่างอยู่ตลอดเวลาเลย
ฝึกใหม่ ๆ
มันก็อาจจะหลุดออกไปบ้าง แต่เราฝึกบ่อย ๆ สมมติว่ามันยังไม่มั่นคง
เราก็ต้องตั้งหลักไว้ก่อน ตั้งสติอดกลั้นไว้ก่อน ถ้าอารมณ์มันจะพุ่งพรวดขึ้นมา
ให้มันอยู่ภายใน แล้วก็ทำใจนิ่ง ๆ มันจะอยู่กับเราไม่นาน เดี๋ยวก็จะดับหายไป
ทำง่าย ๆ อย่างนี้แค่นั้นเอง
แล้วถ้าเราไม่เอาเรื่องเอาราว
ไม่ถือสาผู้ที่เขามายั่ว มาแหย่ มันก็จะเป็นลมเป็นแล้งไป
ถ้าเราถือสามันก็เป็นเรื่องเป็นราว ตรงนี้สำคัญนะ
ถ้าเราไม่ถือสามันก็เหมือนลมที่พัดผ่านไปเฉย ๆ แล้วก็หายไป ใจเราก็จะได้ใส ๆ ถ้าเรารักตัวเอง เราก็ต้องคิดอย่างนี้นะ
คุณครูไม่ใหญ่
๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๒
วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559