วันอาทิตย์พาลูกหลานเข้าวัด มาปฏิบัติธรรม มาฟังธรรม
แล้วก็มาร่วมกิจกรรมงานบุญ เป็นการปลูกฝังลูกหลานของเราให้เรียนรู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต
ให้ใจเกาะอยู่กับบุญกุศลจะได้มีภูมิคุ้มกันที่จะไปต่อสู้กับกระแสสื่อที่ไม่รับผิดชอบเห็นแก่เม็ดเงินบนความหายนะของลูกหลานของเพื่อนมนุษย์
สื่อลามกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน หนังสือ เว็บไซด์
วีซีดี วีดีโอ ไม่มีการ “ปราบ”
กันอย่างจริงจัง ซึ่งถ้าปราบกันอย่างจริงจังก็สามารถควบคุมได้ นอกจากปราบแล้วก็ “โปรด” โดยการให้ความรู้สอนธรรมศึกษาในโรงเรียน
อย่าไปสอนเรื่องเพศ ถึงแม้เด็กนักเรียนจะให้เหตุผลว่า เป็นสิทธิเสรีภาพ หรืออยู่ในวัยที่จะต้องศึกษาเรียนรู้
เด็กเขาก็ว่าไปเรื่อยเปื่อย เพราะร่างกายยังแข็งแรง ฮอร์โมนกำลังเปลี่ยนแปลง ต่างก็คิดกันไปเองโดย “ดูได้”
อย่างเดียว ไม่ได้ “ดูเสีย”
แล้วเรื่องเพศศึกษา เป็นเรื่องราวความผิดพลาดของหลาย ๆ
ประเทศ ที่ได้ทำผ่านมา
เขาประสบความสำเร็จในด้านเศรษฐกิจระดับหนึ่ง แต่ด้านจิตใจล้มเหลว สังคมเขาไม่มีความสุข กำลังแสวงหาความสุข เพราะฉะนั้นเราจะไปเอาแบบแผนเขามาทำไม
สิ่งดี ๆ วัฒนธรรมดี ๆ ของคนไทย ที่ปู่ ย่า ตา ยาย
ได้รับการหล่อหลอมจากพระพุทธศาสนา
เป็นหลักคำสอนของอีกหลายศาสนาให้นำมาสอนลูกหลานของเรา
อย่าไปคล้อยตามในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ที่ว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ก็ให้คนไม่รู้เขาหลิ่วไปเถอะ แต่ถ้าเข้าเมืองตาดี อย่าให้เขาหลิ่วตา
ให้เขาลืมตาดี ๆ ดูบ้าง
เมืองไทยเราเป็นเมืองตาดี ไม่ใช่เมืองตาหลิ่ว
เพราะฉะนั้นจะต้องให้เขาลืมตาดู เราจะต้องเป็นต้นแบบวัฒนธรรมของโลก ที่จะขยายไปสู่ชาวโลก
สิ่งดี ๆ เหล่านี้เราควรจะฟื้นฟูกันขึ้นมา ยังไม่สายเกินไป ถ้าเราตั้งใจที่จะสู้กันจริง ๆ
เพราะฉะนั้น
ต้องเอาธรรมศึกษาเข้าไปสอนในโรงเรียนแทนเพศศึกษา
ให้ความรู้ตั้งแต่ในบ้านเรื่อยไปถึงที่โรงเรียนถึงทุกหนทุกแห่ง
แล้วต้องปราบสื่อที่ไม่ดีออกให้หมด และวันอาทิตย์ต้องพาบุตรหลานเข้าวัด ต้องรีบทำกันอย่างรีบด่วน
๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๗
คุณครูไม่ใหญ่
วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2563