วันอาทิตย์ต้นเดือน อย่าขาดกันนะ แม้วันอาทิตย์ธรรมดา เราอาจจะขาดได้บ้าง กรณีที่จำเป็นนะ
เฉพาะผู้ที่ไปมาวัดได้สะดวก แต่วันอาทิตย์ต้นเดือนอย่าขาด เพราะว่าเป็นบุญใหญ่ ซึ่งบังเกิดขึ้นได้ยาก
ต้องมีการบังเกิดขึ้นของวิชชาธรรมกาย คือ ฝ่ายบุญภาคปราบที่จะไปสู่ที่สุดแห่งธรรมนั่นแหละ
สิ่งนี้จึงจะบังเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่ของง่ายเลย
ดังนั้น อาทิตย์ต้นเดือนต้องมาวัด และอย่ามาตามลำพัง
ให้ชวนผู้ที่เป็นที่รักของเรามาด้วย แม้แต่ตัวเล็ก ๆ ถ้าตัวเล็กมาก ที่เรายังควบคุมเสียงร้องของเธอยังไม่ได้
เราก็เอาไว้ขอบนอก ถ้าควบคุมได้ เราก็เอาเขยิบเข้ามา เพื่อจะได้ปลูกฝังวัฒนธรรมชาวพุทธ
การบูชาข้าวพระอย่างนี้ เป็นบุญใหญ่ เพราะจะต้องเข้าถึงวิชชาธรรมกายจึงจะทำอย่างนี้ได้
บุญเกิดขึ้นมากในระดับที่เราเอามาแก้ไขวิบากกรรมวิบากมารของเราได้เร็วแรง สามารถย่นย่อระยะเวลาในการเดินทางที่ไปสู่จุดหมายปลายทางที่จะต้องไปเป็นทีมนี้ได้สั้นเข้า
ใกล้เข้า กลั่นแก้วิบากกรรมจากหนักเป็นเบา เบาเป็นหาย
เพราะฉะนั้น ในทุก
ๆ วันอาทิตย์ต้นเดือน ต้องมากันนะ เป็นบุญใหญ่พิเศษ ที่เราไม่ควรขาดเลย ๑ เดือน มีเพียงครั้งเดียว
๑ ปี มีเพียง ๑๒ ครั้งเท่านั้น เราทำต่อเนื่องกันมา ๕๐ กว่าปีแล้ว
ที่ว่าเป็นบุญใหญ่ เพราะโอกาสที่จะน้อมนำไทยธรรมไปถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้า
พระอรหันต์ทั้งหลายที่ดับขันธปรินิพพานนานมาแล้วนับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วนอย่างนี้ ไม่ใช่เกิดขึ้นได้ง่าย
เป็นสิ่งที่ยาก ต้องมีการบังเกิดขึ้นของพระพุทธศาสนา
และวิชชาธรรมกายที่มีเป้าหมายในการปราบมารประหารกิเลสให้สิ้นเชื้อ ไม่เหลือเศษ
และไปสู่ที่สุดแห่งธรรมบังเกิดขึ้นนั่นแหละ สิ่งนี้จึงบังเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นเราก็จะไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่าไร
มีแต่คุ้นเคยในการบูชาข้าวพระแบบปกติธรรมดา
ที่เรามีจิตเลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อยากทำบุญ อยากใส่บาตรกับพระองค์
แต่ท่านดับขันธปรินิพพานไปแล้ว เราก็ไม่ทราบจะไปเจอพระองค์ได้อย่างไร มีศรัทธาจึงจัดสำรับอาหารหวานคาวอย่างละเล็กละน้อยมาตั้งไว้ที่หน้าโต๊ะหมู่บูชา
โดยมีพุทธปฏิมากร หรือพระพุทธรูปเป็นตัวแทนของพระบรมศาสดา
กล่าวคำถวายด้วยจิตที่เลื่อมใส แล้วเราก็อธิษฐานจิตนึกถึงบุญนั้น
ที่ผ่านมาก็จะทำกันอย่างนี้
การบูชาข้าวพระในวันอาทิตย์ต้นเดือนนี้
ไปถึงถูกตัวจริงที่ทำให้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย คือ พระธรรมกายนับพระองค์ไม่ถ้วน
จะต้องมีการบังเกิดขึ้นของวิชชาธรรมกาย เพราะฉะนั้น บุญจึงบังเกิดขึ้นมาก
อุปมาแล้ว ถ้าบูชาข้าวพระแบบขอถึง ด้วยจิตที่เลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ได้จัดโต๊ะหมู่บูชา อุปมาเหมือนฝนที่ตกลงมาเต็มตุ่มน้ำที่บ้านเราเท่านั้น
แต่ถ้าบูชาข้าวพระแบบเข้าถึง เหมือนฝนตกลงมาในจักรวาลที่โล่งกว้าง ไม่มีอะไรกำบัง ที่เราเห็นฟ้าครอบอย่างนี้
ฝนเต็มฟ้าครอบอย่างนี้หลาย ๆ ครั้ง เพราะฉะนั้น บุญนี้มันแตกต่างกันมาก
ถ้ามีบุญน้อย เราก็ไปสู้รบปรบมือกับพญามารไม่ได้
เพราะว่าจะสู้กับบาปศักดิ์สิทธิ์ของพญามาร ก็ต้องด้วยบุญศักดิ์สิทธิ์ของพระนิพพาน
ดังนั้น ต้องมีบุญเยอะ ๆ อย่างนี้ แต่ถึงกระนั้น ต้องทำถี่ ๆ บ่อย ๆ
แม้บ่อยก็ปีละแค่ ๑๒ ครั้ง เท่านั้น จึงจะพอสู้รบปรบมือกันได้
เพราะขนาดนี้เรายังไม่เห็นตัวจริงเขาเลยนะ จนกระทั่งเข้าถึงวิชชาธรรมกายนี่แหละ ถึงจะไปเห็นตัวจริงเขาได้
ดังนั้น อย่าขาดบุญบูชาข้าวพระกันนะ ทุกอาทิตย์ต้นเดือนต้องมาวัดกัน
คุณครูไม่ใหญ่
วันอาทิตย์ที่ ๗ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๕๑
วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2564