วันตรุษจีน เป็นวันปีใหม่ของชาวจีน
หลวงพ่อมีความเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นวันปีใหม่ไทย จีน ฝรั่ง เมื่อถึงวันนี้ เราก็จะต้องหวนกลับมาคิดว่า เรามีอายุเพิ่มขึ้นอีก
๑ ปีแล้ว ควรจะทำให้ถูกวัตถุประสงค์ของชีวิต โดยทบทวนวันเวลาในช่วง ๑ ปี ที่ผ่านมาว่า
เราได้สั่งสมบุญบารมีกันทุกวันหรือไม่
ถ้าหากว่า
เราได้สั่งสมบุญทุกวัน ก็เป็นเรื่องที่น่าปลื้มปีติยินดี แต่หากว่ายังขาดตกบกพร่องไปบ้าง
ปีนี้ก็จะเป็นปีที่เราจะเริ่มต้นใหม่ ที่จะต้องสั่งสมบุญบารมีไม่ให้ขาดเลยแม้แต่เพียงวันเดียว
และจะต้องสร้างบุญให้ได้ทุกบุญ เพราะว่าเราได้ศึกษาทางมาแห่งบุญที่เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ
๑๐ มาแล้ว หรืออย่างน้อยก็บุญกิริยาวัตถุ ๓ ประการ คือ ทาน ศีล ภาวนา โดยเริ่มต้นกันตั้งแต่ต้นปีนี้เรื่อยไป
อย่างนี้จึงจะถูกหลักวิชชาของการมาเกิดเป็นมนุษย์
เราไม่ได้อยู่ในโลกนี้เพื่อแสวงหาโลกียทรัพย์เพียงอย่างเดียว
แต่สิ่งที่เราแสวงหา คือ พระรัตนตรัยภายในตัว ซึ่งจะทำให้เราไปสู่พระนิพพาน หลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานของชีวิตในสังสารวัฏไปได้
โดยทั่วไป
เมื่อถึงวันปีใหม่ครั้งหนึ่ง เราก็จะอวยพรกันแค่ว่า ให้มั่งมีศรีสุข ค้าขายร่ำรวย
คือ มุ่งไปที่เศรษฐกิจอย่างเดียว อย่างนี้ไม่พอ จะต้องมุ่งไปในด้านจิตใจด้วย ถ้าเรามุ่งแต่เรื่องทำมาหากินอย่างเดียว
จนกระทั่งวันคืนล่วงเลยไป แสดงว่าเรากำลังประมาท ตกอยู่ในเงื้อมมือของพญามัจจุราช
ครั้งหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า
อานนท์ เธอเห็นพ่อค้าที่บรรทุกสินค้าในกองคาราวานนั้นไหม เขาเก่งและฉลาดในการทำมาหากิน
แต่เขาไม่รู้ตัวเลยว่า เขามีเวลาเหลืออยู่ในโลกนี้อีกเพียง ๗ วันเท่านั้น ก็จะต้องจากโลกนี้ไปแล้ว
เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ในโลกนี้ มุ่งเรื่องการทำมาหากิน ซึ่งก็มีทั้งสมหวังและไม่สมหวัง
เมื่อสมหวังก็ปลื้มเพียงนิดหน่อย แต่กว่าจะได้ปลื้มนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ต้องต่อสู้แก่งแย่งกัน มีคู่แข่ง มีคู่แค้น มีปัญหา มีแรงกดดันสารพัด
พระอานนท์กราบทูลถามว่า
“ข้าพระองค์ไปบอกเขาได้หรือไม่” พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ได้สิอานนท์” พระอานนท์ได้มีความเมตตาไปบอกพ่อค้านั้นว่า
“พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ท่านจะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกเพียง ๗ วันเท่านั้น
ท่านควรจะสั่งสมบุญเอาไว้สำหรับชีวิตในปรโลก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสคำไหนเป็นคำนั้น
เป็นความจริงที่ไม่เคยผิดพลาดเลย”
โชคดีที่พ่อค้าท่านนั้นมีบุญเก่าและมีดวงปัญญา
เมื่อฟังดังนั้นก็เข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้ง จึงได้สั่งสมบุญ ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานตลอด
๗ วัน เมื่อครบ ๗ วัน นักธุรกิจนั้นก็ละโลก ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้จริง
ๆ
เราจะเห็นว่า
พญามัจจุราชไม่เคยให้โอกาสใครสร้างบุญกุศลได้นาน แล้วยังปกปิดวันที่จะมาพรากชีวิตด้วย
ไม่บอกว่าจะมาวันอาทิตย์ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์
หรือวันเสาร์ ตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน อยู่ในบ้านหรือนอกบ้านก็ไม่บอกอีก
เพราะฉะนั้น
เมื่อถึงวันปีใหม่ ไม่ว่าจะปีใหม่ไทย จีน
ฝรั่ง เราก็จะต้องเริ่มต้นด้วยการสร้างบารมี โดยเฉพาะบารมีที่จะสร้างจะต้องเป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา
ต่อชาวโลกเป็นอย่างมาก ซึ่งในช่วงนี้ก็มีการสร้างเสาแก้วพันปี ที่จะรองรับมหารัตนวิหารคด
เราเป็นผู้มีบุญลาภที่ได้มาอยู่ ณ จุดที่เป็นผู้สถาปนามหารัตนวิหารคด
ทรัพย์เราก็มีอยู่ พวกพ้องหมู่ญาติเราก็มีอยู่ และเราก็มีศรัทธา เข้าใจเรื่องความเป็นจริงของชีวิตแล้ว
เราสามารถทำได้อย่างเต็มที่ เต็มกำลัง ทั้งทำด้วยตนเองและชักชวนผู้อื่นให้ทำด้วย เพราะฉะนั้นใช้วันเวลาที่ผ่านไป ให้เป็นประโยชน์ต่อการสร้างบุญบารมีให้มากที่สุด
คุณครูไม่ใหญ่
วันพุธที่ ๙ กุมภาพันธ์
พ.ศ. ๒๕๔๘
วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564