บุญเป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสุข ความสำเร็จทั้งมวล
เป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็นได้ด้วยตาเนื้อ จับต้องด้วยมือไม่ได้ แต่เห็นได้ด้วยธรรมจักขุของพระธรรมกาย
ดวงบุญจะอยู่ข้างใน ตรงไส้กลางของกายเราทุกๆ คน และมีขนาดไม่เท่ากัน
ถ้าใครดวงบุญเล็ก ดวงบาปโต เกิดมาก็ทุกข์ยากลำบาก
หาเงินเกือบตาย ไม่ค่อยจะได้
ถ้าดวงบุญโตปานกลาง ใหญ่ขึ้น ก็มีความสุขเพิ่มขึ้น
สะดวกสบายขึ้น เป็นชนชั้นกลาง พอแก่อัตภาพ
ถ้าดวงบุญในตัวใหญ่ขึ้นมาอีก ก็เป็นคนชั้นสูง
มีสมบัติมากกว่าคนอื่น ไม่ต้องไปหาเงิน แต่เงินมาหา สมบัติมาหา
เพราะฉะนั้น จะสังเกตคนรวยแล้วก็รวยอีก
รวยไปเรื่อยๆ ที่จนแล้วก็จนกันไปเรื่อยๆ เพราะกระแสที่จะดึงดูดมา มันไม่มี ไม่มีเพราะว่ากระแสของความตระหนี่ในภพก่อนๆ
ชาติก่อนๆ มันขวางสมบัติเอาไว้
เมื่อไม่ให้..ก็ไม่ได้
เวลาที่ภพก่อนๆ โน้น บาปอกุศลเข้ามาครอบงำทำให้หวงแหนทรัพย์
ตระหนี่ ไม่คิดจะให้ ให้ไม่เป็น พอรู้สึกว่า จะให้ แล้วเป็นทุกข์ กลุ้มทีเดียว นอนไม่หลับ
ไม่สบายใจ อึดอัด โกรธคนที่มาขอ ให้ไม่เป็น กระแสแห่งความตระหนี่มันมืดสนิท มันบังเอาไว้
ครอบงำเลย หุ้ม เคลือบ เอิบอาบ ซึมซาบ ปนเป็น สวมซ้อนร้อยไส้เข้าไปในตรงกลาง เต็มไปหมดเลย
มีกระแสของความตระหนี่คอยผลักสมบัติออกไป
แล้วก็ดึงวิบัติเข้ามา เป็นสิ่งที่ใครมองไม่เห็นเหมือนกัน แต่ว่ามันก็มีอยู่
เกิดขึ้น
แต่ถ้าหาก ดวงบุญในตัวของเราโตใหญ่
ดวงบาปน้อย เวลาจะทำอะไรมันก็สำเร็จง่าย สมบัติที่ใครๆ ว่า ดึงดูดมายาก
มันก็มาง่าย มาแล้วมาอีก
เราคงเคยเห็น บางคนทำอะไรก็ไม่ค่อยเป็น
แต่บุญบันดาลให้มีโอกาสดี จังหวะดี บางทีเราก็ใช้คำว่า มีโชคดี ลาภดี
มีคนช่วยเหลือเกื้อกูล นั่นก็เพราะกระแสบุญที่อยู่ภายในตัวส่งกระแสไป
เหมือนกระแสคลื่นวิทยุ แผ่ไปในบรรยากาศที่มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ แล้วมันก็จะดึงดูดทรัพย์สมบัติเข้ามาหาตัวเรา
นี่เป็นเรื่องแปลกมาก ต้องเข้าธรรมกายถึงจะเห็นชัดแจ่มใส
คุณครูไม่ใหญ่
วันอาทิตย์ที่ ๗ เมษายน
พ.ศ.๒๕๓๙
วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2565