ทุกคนมีความเจ็บป่วยเป็นธรรมดา
น้อยบ้าง ปานกลางบ้าง มากบ้าง เร็วบ้าง
ช้าบ้าง อย่าคิดว่า ทำไมเราป่วยอยู่คนเดียวคนอื่นไม่ป่วย ทำไมเราต้องป่วย
อย่าคิดอย่างนั้น ให้คิดว่าความเจ็บป่วยเป็นของคู่กายติดตัวเรามาเป็นธรรมดา
เมื่อเรารู้ตัวว่าเราป่วย
เราก็จะต้องเตรียมตัวให้ดี ตั้งแต่ความเจ็บไข้ได้ป่วยยังไม่ชัดเจน หรือเล็ก ๆ น้อย
ๆ พอที่เราจะขจัดไปได้ก็ตาม เราก็ต้องเตรียมตัวไปเรื่อย
ๆ ยิ่งเมื่อเราจะเข้าโรงพยาบาล หรือไปให้หมอตรวจ หรือจำเป็นจะต้องผ่าตัดด้วยแล้ว
เราควรจะเตรียมตัวให้ดีไว้ก่อน
เตรียมตัวสบาย ๆ ๗ วัน
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
๑. ให้ทาน
ถวายภัตตาหารพระ
ตอนเช้าให้ใส่บาตรพระ หรือไปถวายภัตตาหารพระที่วัดใกล้บ้าน บ้านเราใกล้วัดไหนก็ไปวัดนั้น
ถวายภัตตาหารทุกวันอย่าให้ขาดเลย แล้วอธิษฐานจิตทำใจให้เบิกบาน
ให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน ปล่อยสัตว์ทุกวัน
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่อาจจะปล่อยปลาบ้าง ปูบ้าง หอยบ้าง หรือปล่อยสัตว์ใหญ่ เช่น วัว
ควาย เป็นต้น ทำทุก ๆ วันแล้วแต่สะดวก แต่อย่าให้ถึงกับเป็นภาระเครื่องกังวล แต่ควรจะปล่อยทุกวัน
ให้อภัยทาน ไม่โกรธ
ไม่ผูกโกรธ ไม่คิดแค้นใคร
๒. รักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ คือ
ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดปด ไม่ดื่มสุราเมรัย ยาเสพติดสิ่งไม่ดีต่าง ๆ การรักษาศีลเป็นการลงทุนที่ประหยัดสุดไม่ต้องเสียเงินเลย
เราจะสมาทานเองก็ได้ หรือไปกราบขอศีลจากพระที่วัดก็ได้
๓. ปฏิบัติธรรม คือ ทำใจให้ใส
ๆ หยุดนิ่งเฉย ๆ ว่าง ๆ ตรึกระลึกนึกถึงพระรัตนตรัยในตัว
ให้ตัวของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังบุญที่เราได้ให้ทาน ได้รักษาศีล ได้เจริญภาวนาระลึกนึกถึงคุณพระรัตนตรัย
ให้บุญมาหล่อเลี้ยงกายเลี้ยงใจเรา รวมถึงหล่อเลี้ยงร่างกายเราทั้งอวัยวะน้อยใหญ่ตั้งแต่ผม
ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก อาการ ๓๒
ปอด ตับ ม้าม ไต หัวใจ เป็นต้น
ทั้งหมดเลย กลั่นให้ใสจนกระทั่งกายใจเราใสเป็นแก้ว ใสเป็นเพชร
อธิษฐานจิตให้เจอหมอดียาดี
การเข้าโรงพยาบาลก็ต้องอาศัยแรงอธิษฐานจิต
เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เราทำบุญไม่ว่าจะทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาก็อธิษฐานจิตว่า
ขอให้เราเจอหมอดีที่มีความรู้ความสามารถวินิจฉัยโรคและรักษาได้ถูกต้อง เจอพยาบาลดีที่มีจิตประกอบไปด้วยเมตตา ไม่ถือสาเราในเวลาที่เราเจ็บไข้ได้ป่วย ให้เจอยาดีที่ถูกกับโรค
ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยบุญทั้งนั้น ดังนั้นเราจึงจำเป็นจะต้องสั่งสมบุญช่วงก่อนเข้าโรงพยาบาล
๗ วันนี้ให้ดี
สมาชิกในบ้านช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดี
สมาชิกในครอบครัวต้องช่วยกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี
ถ้าพ่อป่วย แม่ก็ต้องช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยชวนลูกทุกคนในบ้านให้สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น
สบายใจ อย่าให้เป็นเครื่องกังวลแก่คนไข้ที่กำลังจะเข้าโรงพยาบาลภายในไม่กี่วันนี้
ควรพูดปิยวาจา
ไม่นำเรื่องทุกข์ใจมาคุยกับผู้ป่วย คอยปลอบประโลมใจด้วยเรื่องบุญกุศล เรื่องความดี
ค่อย ๆ พูดจาดี ๆ แนะนำกันไป
ยิ้มแย้มแจ่มใส สร้างบรรยากาศให้สบาย ๆ อย่าให้เกิดความวิตกกังวล
แต่งเนื้อแต่งตัวให้สะอาดสะอ้าน
จัดบ้านช่องให้สะอาด น่าอยู่
ชวนสมาชิกทุกคนภายในบ้านมาสวดมนต์
ไหว้พระ เจริญภาวนา ช่วยกันอธิษฐานจิตขอพลังบุญบารมีความดีทั้งหมด ไปช่วยผู้ป่วยขอให้ช่วยขจัดทุกข์โศกโรคภัย
สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายจากหนักเป็นเบา เบาก็หาย
นี่คือการเตรียมเนื้อเตรียมตัวที่ดี
ตอนนี้เราพร้อมแล้วที่จะขึ้นไปนอนบนเตียงคนป่วย
เมื่อต้องนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย
ผู้ป่วยเมื่อไปถึงโรงพยาบาลแล้วก็อย่าคิดว่าเราป่วย เราคิดมามากพอแล้ว ให้คิดว่าเรามีความเจ็บเป็นธรรมดา
ให้ปล่อยวางภารกิจการงาน เครื่องกังวลต่าง
ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว หรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่
ให้คิดว่า เราจะได้มีโอกาสพักทำภาวนาบนเตียงคนป่วย
ให้ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ในตัวของเรา
บทสวดมนต์เราคล่องบทไหนก็สวดไป ถ้าจำไม่ได้ก็ภาวนาสัมมาอรหัง
นึกถึงบุญในตัว พระในตัว ถ้านึกถึงพระในตัวไม่ได้ ก็นึกนอกตัว องค์ไหนก็ได้ที่เรานึกได้
แล้วก็ทำความรู้สึกให้กายใจเราใสเป็นแก้ว ใสเป็นเพชร จนกระทั่งกายใจเราใสเป็นแก้วใสเป็นเพชร
อธิษฐานให้โรคภัยไข้เจ็บละลายหายไป
ส่วนเรื่องการดูแลรักษาก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณหมอ
เพราะท่านมีความรู้ความชำนาญ
หน้าที่ของเราคือรักษาใจให้ใส ๆ นึกถึงบุญที่เราทำผ่านมาในช่วงใกล้ ๆ ๗
วันนี้ เราได้ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ประพฤติธรรมที่วัดใกล้บ้าน
หรือวัดไหนที่เรามีกุศลศรัทธาเราก็ไปวัดนั้น
นึกถึงศีลที่รักษามาตลอด ๗ วัน ไม่ได้ขาดตกบกพร่องเลย หรือถ้าเป็นชายและเคยบวช
เราก็นึกถึงบุญบวช จะบวชพระ บวชเณร เราก็นึกไป เพราะบุญบวชจะคุ้มครองเราไปสู่สุคติโลกสวรรค์ นึกถึงทาน นึกถึงศีล นึกให้อภัย เราไม่มีเวรไม่มีภัยแก่ใคร แล้วเราก็ทำใจให้ใส ๆ
หมอเขาจะวางยาสลบให้เราหลับลึก ๆ ก็ให้หมอเขาทำไป
เรื่องเล่าสมัยพุทธกาล
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไปพร้อมกับพระอานนท์
ไปเจอพ่อค้าบรรทุกสินค้ามา ๕๐๐ เล่มเกวียน พ่อค้าหรือนักธุรกิจท่านนี้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องธุรกิจการงานมาก
ทำมาค้าขายร่ำรวย เขาได้สั่งสมทรัพย์ภายนอกไว้มาก
แต่ไม่ได้สั่งสมบุญเลย โดยลืมไปว่า สักวันหนึ่งจะต้องตาย แต่โชคดียังมีบุญเก่าบันดาลให้ได้มาพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระพุทธองค์เสด็จมาพร้อมกับพระอานนท์
ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นในข่ายพระญาณว่า เขามีเวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว
จึงตรัสกับพระอานนท์ว่า “นักธุรกิจที่อยู่ข้างหน้าพร้อมด้วยเกวียน ๕๐๐
เล่มที่บรรทุกสินค้ามา
เขาเก่งในเรื่องการทำมาหากิน แต่เขาไม่รู้เลยว่าอีก ๗ วัน เขาจะตาย”
พระอานนท์ทูลถามว่า
“แล้วข้าพระองค์ไปบอกเขาได้ไหม” “ได้อานนท์”
พระอานนท์ก็อาศัยวิญญาณของกัลยาณมิตรไปบอกเลยว่า “นี่ท่านเศรษฐี
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห็นว่าท่านจะมีเวลาเหลืออยู่ในโลกนี้อีก ๗ วัน
ให้ท่านเตรียมตัวสั่งสมบุญตลอด ๗ วันนี้
ท่านจะได้เอาบุญนี้ติดตัวไปสู่สุคติโลกสวรรค์ เพราะทุกคนไม่ช้าก็ต้องตายทั้งนั้น
แล้วก็มีหลักวิชชาว่า ถ้าใจใสก็ไปดี ไปสวรรค์ ถ้าใจหมองก็ไปอบาย เพราะฉะนั้นให้รีบสั่งสมบุญให้ใจใส ๆ และใจจะใสได้ก็ต้องมีบุญหล่อเลี้ยง”
โชคดีที่นักธุรกิจท่านนั้นเชื่อ
ได้มาสั่งสมบุญ ได้ถวายทานโดยนิมนต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมด้วยหมู่สงฆ์ ได้รักษาศีลและเจริญภาวนาตลอดทั้ง ๗ วัน และตลอด
๗ วันนั้นได้ตามระลึกนึกถึงบุญ พอวันที่ ๗
ก็ละโลกไป ในขณะที่ใจใสนึกถึงบุญที่ได้ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์
โดยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมุข ได้รักษาศีล ๕ ได้เจริญภาวนา ตลอด ๗ วัน ด้วยผลบุญนี้จึงไปสู่สุคติโลกสวรรค์
เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่
เราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ ด้วยการสั่งสมบุญกุศล ทั้งทาน ศีล ภาวนา ถ้าหากว่า เรามีบุญที่เราได้สั่งสมเอาไว้อย่างดีแล้ว
บุญนี่แหละจะเป็นหลักประกันของชีวิต
ให้เรามีความสุขบันเทิงในโลกทั้งสอง คือ ทั้งในโลกนี้และในโลกสวรรค์ บุญเท่านั้นจะประกันชีวิตของเราได้อย่างดีเยี่ยม
ยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้น
ใครก็ตามที่เจ็บไข้ได้ป่วยจะต้องเข้าโรงพยาบาลก็ให้เตรียมตัวเตรียมใจให้ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ให้เราไปเตรียมตัวตาย แต่นี่ยกตัวอย่างว่า
นักธุรกิจท่านนั้นเป็นอย่างนี้
แต่เราก็เตรียมให้มันถูกหลักวิชชา แล้วบุญนี้ก็จะค่อย ๆ
ไปช่วยต่ออายุขัยเรา เราจะได้หมอดี ที่มีความรู้ความสามารถในการวินิจฉัยโรคได้ถูกต้อง
ได้ยาดี ได้พยาบาลที่จิตประกอบไปด้วยเมตตา เราจะได้หายเร็ว หนักก็เป็นเบา เบาก็หาย แต่ถ้าตายก็ไปดี ไม่มีอะไรเสียเลย
เตรียมตัวไว้เถิดประเสริฐนัก
วันเสาร์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗
คุณครูไม่ใหญ่
วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2563
Related Posts
ป่วยอย่างสง่างาม ข้อแนะนำสำหรับผู้ป่วยซึ่งมาหาหลวงพ่อ
ก่อนที่จะเข้ามาในห้องนี้
ข้อคิดคนป่วย
เวลาเราจะเข้าโรงพยาบาล
เพื่อไปตรวจเช็คสุขภาพประจำปีตามปกติ หรือไปเช็คเพราะสงสัยว่า อาจจะมีบางสิ่งผิดปกติในร่าง
ร่างกายเป็นรังแห่งโรคสำหรับลูกบางคน ที่มีอาการเจ็บป่วยไข้
แล้วจะต้องเข้าไปรับการผ่าตัด ก็จะต้องฝึกใจให้หยุดให้นิ่ง ๆ นะจ๊ะ
ให้คิดตามที่พระพ
เมื่อต้องผ่าตัด อย่ากังวลนะลูกนะ ที่จะต้องผ่าตัด นึกถึงบุญเอาไว้ สั่งส
เมื่อต้องเข้าโรงพยาบาลควรเตรียมตัวอย่างไร?
เมื่อเราป่วยไข้ จำเป็นจะต้องเข้าโรงพยาบาล
หรือเข้ารับการผ่าตัด เราควรจะเตรียมตัว ๗
วัน ก่อนเข้าโรงพยาบาล ดัง
เมื่อต้องเข้าโรงพยาบาลควรเตรียมตัวอย่างไร?
เมื่อเราป่วยไข้จำเป็นจะต้องเข้าโรงพยาบาล
หรือเข้ารับการผ่าตัด เราควรจะเตรียมตัว ๗
วัน ก่อนเข้าโรงพยาบาลหรื
ป่วยอย่างสง่างาม
ถ้าตอนนี้เรามีสุขภาพไม่แข็งแรง
เป็นโรคภัยไข้เจ็บที่รุนแรง ก็มีข้อควรปฏิบัติดังนี้
ช่วงนี้จะต้องเป็นช่วงเวลาที่เราต้อ
ธรรมะรักษา
การฝึกใจให้หยุดนิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต อย่าให้มีสิ่งใดมาเป็นอุปสรรค
ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อย