วันอาทิตย์เราควรจะมาวัด
บ้านใครอยู่ใกล้วัดไหนก็ไปวัดนั้น
หรือใครมีศรัทธาที่วัดไหนก็ไปวัดนั้น
วันอาทิตย์เราควรจะมาเข้าวัด ฟังธรรม ปฎิบัติธรรมร่วมกัน
ไม่ใช่ว่าพอมีจานดาวธรรมแล้ว เราก็เลยถือโอกาสอยู่ที่บ้านดูผ่านจานดาวธรรม ซึ่งความจริงแล้วแม้จะมีจานดาวธรรม
วันอาทิตย์เราก็ควรจะมาวัด เพราะมีหลายกิจกรรมที่เราจะต้องทำร่วมกัน
ซึ่งอยู่ที่บ้านก็ทำได้ แต่ไม่สมบูรณ์ เพราะขาดการเป็นต้นบุญต้นแบบที่ดีของชาวโลก ซึ่งโลกยังขาดแคลนตัวอย่างดีๆ
เขาจะได้ดูหมู่คณะเราผ่านทางจานดาวธรรม จะได้เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำความดี
และทำความดีได้ถูกต้อง
สื่อทุกสื่อในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะสื่ออะไรก็ตาม สิ่งที่ผ่านสื่อมาไม่มีให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวความจริงของชีวิต
ส่วนใหญ่มีแต่เรื่องบาดหมางกัน ขัดแย้งกัน ทะเลาะกัน กับเรื่องเพลิดเพลินกันไป แต่ความรู้ที่จำเป็นสำหรับชีวิตกลับไม่ค่อยมี
ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับตัวเรา
เราอยู่ในโลกนี้ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น ไม่ช้าก็หมดเวลาจากโลกนี้ไปแล้ว
แต่ชีวิตหลังความตายในปรโลกยาวนานมาก มีความรู้ซึ่งเราจำเป็นต้องรู้ ไม่รู้ไม่ได้
ไม่รู้ก็ทำไม่ถูก และเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับชีวิต
สิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตเรานั้น มีอย่างน้อย ๓ หัวข้อใหญ่
ที่เราจำเป็นต้องรู้ นั่นคือ เรื่องนิพพาน ภพสาม โลกันตร์
ถามว่า เรารู้เรื่องนิพพานกันดีไหม เพราะเราต้องเกี่ยวข้อง
เราก็ยังไม่รู้ว่านิพพานเป็นอย่างไร ทำไมเราจะต้องไป เรื่องภพ ๓ ภายในภพ ๓ มีอะไรบ้าง
ซึ่งมีถึง ๓๑ ภูมิ ในอรูปพรหม ๔ ชั้น พรหม ๑๖ ชั้น สวรรค์ ๖ ชั้น มนุษย์ อบายภูมิ
๔ และยังแยกย่อยกันไปอีก เป็นมหานรก ๔๕๖ ขุม แล้วนอกภพ ๓ ไปยังมีอีก ด้านบนนิพพาน
ด้านล่างโลกันตนรกซึ่งห่างจากขอบภพ ๓ ด้านล่างไปอีก ๓ ช่วง เราก็ไม่รู้เรื่อง
สื่อทุกสื่อไม่มีพูดถึงเรื่องราวเหล่านี้เลย แต่มีกล่าวเอาไว้ในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งคำสอนนี้ได้กระจายไปทุกวัดทั่วประเทศ ไปตามวัดนั่นแหละถึงจะเจอเรื่องราวเหล่านี้
ส่วนเรื่องที่เจอตามสื่อต่าง ๆ เป็นเรื่องที่อยู่ในโลกมนุษย์ซึ่งไม่ใช่ของจริงจังอะไร
แล้วก็จะทำให้ใจหมองมากกว่าใจใส เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นจะต้องมาวัดในวันอาทิตย์
เดินทางไปอบายทุกข์ทรมานทุกขั้นตอน แต่เดินทางมาวัดสุขทุกขั้นตอน
บุญกุศลเกิดขึ้น เราจะได้บารมี ๑๐ ทัศ ครบถ้วนบริบูรณ์ ทั้งทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา
วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา และอุเบกขา แค่เพียงเดินทางจากบ้านมาวัดในวันอาทิตย์
สวดมนต์ในสถานที่จริงๆ ของมหาธรรมกายเจดีย์
ความปลื้มปีติมันต่างกัน และเราจะได้มาช่วยกันสถาปนาระบบระเบียบศาสนพิธีว่าควรจะทำอย่างไร
รุ่นต่อไปจะได้ปฏิบัติตามต้นแบบจากที่พวกเราได้ช่วยกันสถาปนานี้ก็จะเป็นทางมาแห่งบุญของเราด้วย
แม้เราละโลกไปแล้วบุญจากการเป็นต้นบุญต้นแบบก็ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นเรื่องสำคัญ
เพราะฉะนั้นวันอาทิตย์มาวัดกันนะ
และช่วงนี้ใกล้ฤดูร้อน อากาศอาจจะอ้าวบ้างก็ไม่เป็นไร ใครจะพัดก็ตามสะดวก
คนข้างๆ จะได้เย็นไปด้วย เราก็สบายได้เอ็กซ์เซอร์ไซส์มือแขนจะได้แข็งแรงสดชื่นเบิกบาน
ยกเว้นช่วงเวลาปฎิบัติธรรมขอให้ปิดเครื่องมือสื่อสารเท่านั้น ถึงแม้อากาศจะร้อน แต่ก็ยังน้อยกว่าผู้ที่ไปอยู่ในทะเลทราย
อุณหภูมิสูงถึง ๕๐ องศาเซลเซียส ของเรายังน้อยกว่าเยอะ เพราะฉะนั้นก็ลำบากบ้างนิดหน่อย
แต่ถ้าเราไม่ลำบากบ้าง เราจะได้ขันติบารมีและวิริยะบารมีมาจากไหน
ขันติบารมีเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องสั่งสมทีละเล็กทีละน้อยกันไปเรื่อยๆ
เพราะว่าเรายังไม่ชนะพญามาร อุปสรรคของชีวิตก็ต้องมี
ถ้าเรามีขันติบารมีก็จะเป็นกำแพงกั้นไม่ให้เราทำสิ่งไม่ดีได้ด้วยขันติธรรม พอหยุดมัน
มันก็อยู่กับเราไม่ได้นานก็ต้องล่มสลายไป นี่เป็นเรื่องที่สำคัญต้องศึกษากันให้ดี
เพราะฉะนั้นมาวัดในทุก ๆ วันอาทิตย์กันเถอะ
๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๙
คุณครูไม่ใหญ่
วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2563