ครั้งหนึ่ง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องปฏิจจสมุปบาท พระอานนท์ได้ฟัง บอก เอ้ ไม่เห็นยากนี่ อวิชชาทำให้เกิดสังขาร สังขารเกิดวิญญาณ วิญญาณทำให้เกิดนามรูป ไล่เรื่อยไปเลย
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสบอกพระอานนท์ว่า
“อานนท์ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก มันเป็นวิสัยของการเข้าถึง จะมาทรงจำมาท่องคล่องปากขึ้นใจ
พิจารณาตามอย่างนั้น ไม่ใช่ มันต้องเข้าถึงกันจริง ๆ”
เพราะฉะนั้น
เมื่อได้ศึกษาปริยัติอย่างคล่องแคล่วเชี่ยวชาญแล้ว ก็ต้องปฏิบัติด้วย ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ เทศนาจะต้องไปด้วยกันทั้งหมด
เรียนปริยัติ
เพื่อศึกษาแนวทางในการที่จะปฏิบัติไปนิพพาน เมื่อเข้าใจแล้วก็ลงมือปฏิบัติ ไปฝึกทำหยุดทำนิ่ง
ปริยัติก็จะสอนเพื่อให้รู้เรื่องเกี่ยวกับโลก เรื่องราวความจริงชีวิตเป็นอย่างไร การเวียนว่ายตายเกิด
จนกระทั่งเบื่อหน่ายในการเวียนว่ายตายเกิด หรือวัฏฏะมีภัยมาก อันตราย ล้วนแต่มีทุกข์ทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นจะต้องไปทำกิเลสอาสวะหมดสิ้นได้ ก็จะน้อมไปสู่การปฏิบัติ ทำกรรมฐาน ทำใจหยุดใจนิ่ง ๆ พอใจหยุดนิ่งได้ก็จะเห็นไปตามขั้นตอน ตามที่ได้ศึกษามา
มีเครื่องยืนยัน เมื่อเข้าถึงแล้วเป็นปฏิเวธ
มีประสบการณ์ภายใน
เมื่อโปรดตัวเองได้พ้นแล้ว
จึงนำมาถ่ายทอด มาแนะนำสั่งสอนกันต่อ ๆ ไป
ที่จริงก็มีหลักสูตรในสมัยพุทธกาลอยู่แล้วนะ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ เทศนา นี่เป็นอาชีพพระภิกษุในพระพุทธศาสนาเลย
ไม่ใช่เอาอย่างใดอย่างหนึ่ง
คุณครูไม่ใหญ่
๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗
วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2564