พรรษาแห่งการบรรลุธรรม
วันนี้เป็นวันเข้าพรรษา
นับจากวันนี้ไปถึงวันออกพรรษาก็ไม่นานเท่าไรเลย เรามีเวลาจำกัดมากภายในพรรษา เดี๋ยวก็วันเดี๋ยวก็คืนเดี๋ยวก็ออกพรรษากันอีกแล้ว
พรรษานี้ก็เช่นเดียวกับพรรษาที่ผ่านๆ
มา คือ พรรษาแห่งการบรรลุธรรม ที่ตั้งชื่ออย่างนี้ในทุกๆ
พรรษา ก็เพื่อจะได้กระตุ้นเตือนจิตสำนึกของเราให้รู้ว่า ในแต่ละวันแต่ละคืนของพรรษาจะต้องใช้ทุกอนุวินาทีให้เป็นประโยชน์ต่อการบำเพ็ญสมณธรรม
ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของชีวิตของสมณะ และเพื่อที่จะได้บรรลุวัตถุประสงค์ของการมาบวช
คือ การทำพระนิพพานให้แจ้ง สลัดตนให้พ้นจากกองทุกข์
โดยเฉพาะลูกๆ
ที่วัดพระธรรมกายนี้ เรามีมโนปณิธานที่จะไปสู่ที่สุดแห่งธรรม ที่จะศึกษาวิชชาธรรมกาย
เพราะฉะนั้นเราจะต้องให้ความสำคัญกับทุกๆ อนุวินาทีที่เรายังมีชีวิตอยู่ในพรรษานี้
ในการบำเพ็ญสมณธรรม ฝึกใจของเราให้หยุดนิ่ง ตามหลักวิชชาที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านได้อบรมสั่งสอนถ่ายทอด
จนกระทั่งตกมาถึงพวกเรานี้ แล้วก็ทราบกันเป็นอย่างดีแล้ว
ให้ตั้งอกตั้งใจประกอบความเพียรกันให้เต็มที่
แม้ว่าเราจะมีภารกิจ มีกิจวัตรกิจกรรมงานพระศาสนา ต้องเรียนหนังสือ หรือช่วยเหลือกิจการงานของพระศาสนา
เป็นต้น ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการบำเพ็ญสมณธรรม ที่เราสามารถทำควบคู่กันไปได้
โดยเฉพาะพรรษานี้
อยากให้เป็นพรรษาแห่งความสมหวังกันของลูกๆ ทั้งองค์กร
ที่จะได้เข้าถึงพระธรรมกายกันทั้งหมดเลย ถ้าเราเข้าถึงได้ ก็จะเป็นกำลังใจให้กับพุทธบุตรตามอารามต่างๆ
ทั่วสังฆมณฑลว่า เมื่อวัดพระธรรมกายทำได้ ทุกๆ วัดก็จะต้องทำได้ด้วย
วิกฤตพระพุทธศาสนา
โดยเฉพาะช่วงนี้พระพุทธศาสนาอยู่ในช่วงที่วิกฤต
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ แต่ดูเหมือนว่ามันปกติ ถ้ายิ่งศึกษาลงไปให้ลึกซึ้ง เราจะเห็นว่าในหลายๆ วัดทั่วประเทศ การบวชเพื่อให้ได้ครบพรรษา
ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติหรือเป็นความตั้งใจที่ดี ตั้งใจจริงของบรรพบุรุษของเรา ปู่ย่าตายาย
ว่ากุลบุตรออกจากตระกูลแล้ว จะต้องบวชให้ได้อย่างน้อย ๑ พรรษา
เดี๋ยวนี้เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับตรงนี้
มักจะบวชช่วงสั้นๆ ๗ วันบ้าง ๒
อาทิตย์บ้าง ๓ อาทิตย์ หรือเดือนหนึ่ง แล้วก็ลาสิกขาไป ลาสิกขาไปแล้วก็ไปพูดต่อๆ
กันไปว่า บวชแล้วไม่ได้อะไร มีแต่นั่งๆ นอนๆ วันๆ ไม่มีอะไรจะทำ ถ้าขืนให้เป็นอยู่อย่างนี้
สิ่งเหล่านี้จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อพระพุทธศาสนา
ต่อชาวพุทธและชาวโลกต่อไปในอนาคต
เราจึงจะต้องให้ความสำคัญกับการบวชให้มากๆ
โดยเฉพาะลูกเป็นผู้มีบุญ มีโอกาสมาบวชแล้วอยู่ร่วมกันอย่างนี้
ฉะนั้นจะต้องเป็นต้นบุญต้นแบบที่ดี เป็นกำลังใจของผู้ที่เขาจะมาภายหลัง ที่จะบวชในรุ่นต่อๆ
ไป ทั้งวัดพระธรรมกายและวัดอื่นๆ โดยการให้พรรษานี้เป็นพรรษาแห่งการบรรลุธรรมยกชั้นกันจริงๆ
ตื่นตัวเรื่องการปฏิบัติธรรม
หลวงพ่ออยากเห็นลูกๆ
ทุกรูป ตั้งใจทำอย่างนี้ หลับตา ลืมตา นั่ง นอน ยืน เดิน เราก็จะเห็นองค์พระชัดใสแจ่ม
อย่างน้อยก็เห็นดวงใสๆ จะเรียนหนังสือก็เห็นดวงใส เห็นองค์พระใส ถ้าทำศาสนกิจต่างๆ
ที่ได้รับมอบหมายจากหมู่คณะก็มีแต่ดวงใสๆ องค์พระใสๆ ทั้งหลับตา ลืมตา
ถ้าเราทำกันได้อย่างนี้
กิตติศัพท์อันดีงามนี้ก็จะกระจายไปยังอารามต่างๆ ตั้งแต่วัดสาขาของเราที่กระจัดกระจายกันอยู่ทั้งภายในและต่างประเทศก็จะเกิดแรงบันดาลใจ
เกิดการตื่นตัวพากันปฏิบัติธรรม ซึ่งจะมีผลไปถึงเพื่อนสหธรรมิกตามอารามต่างๆ และญาติโยมทั้งหลายด้วยว่า
เราสามารถเข้าถึงธรรมตามกำลังแห่งบารมีได้เช่นเดียวกับในสมัยพุทธกาล
กระแสนี้เมื่อขยายออกไปแล้ว
ลูกๆ ลองนึกดูแล้วกันว่า จะมีสิ่งดีๆ
เกิดขึ้นไปทั่วสังฆมณฑลทั้งภายในและต่างประเทศ จะเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นทางมาแห่งบุญบารมีของเรา ที่เราเป็นต้นบุญต้นแบบ
เป็นกำลังใจที่ทำให้สิ่งดีงามนี้หวนคืนมาอีก เหมือนย้อนยุคในสมัยพุทธกาล
แม้ว่าจะมีข้อแตกต่างกันบ้างนิดหน่อย
เช่น
บวชในสมัยพุทธกาลเขาบวชทีเดียว คือ บวชเพราะเห็นภัยในวัฏสงสาร
เบื่อหน่ายในเพศของคฤหัสถ์ว่า เป็นที่อึดอัด คับแคบ ไม่เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่
ไม่บริสุทธิ์ไม่บริบูรณ์ จึงมาออกบวช แล้วมุ่งทำพระนิพพานให้แจ้ง
สลัดตนให้พ้นจากกองทุกข์
สมัยพุทธกาลเขาบวชทีเดียว
ออกจากตระกูลต่างๆ ตั้งแต่ตระกูลกษัตริย์
เศรษฐี มหาเศรษฐี ไล่เรื่อยลงมาเลย ในทุกชนชั้นก็ออกบวชมุ่งมรรคผลนิพพานกัน สมัยพุทธกาลเขาทำกันอย่างนั้น
แต่ว่าตอนหลังๆ บวชได้ช่วงยาว แล้วต่อมาเหลือบวชช่วงสั้น แต่ขนาดสั้นของเขาก็บวชอย่างน้อย
๑ พรรษา รับกฐิน แล้วก็ลาสิกขากันไป
แต่มาถึงยุคของเรา
ถดถอยลงมาเรื่อยๆ เราจะให้ถดถอยไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
นี่คือความสำคัญที่หลวงพ่ออยากจะแจ้งให้ลูกทั้งหมดได้รับทราบ ในสิ่งที่เกิดขึ้นกับวงการพระพุทธศาสนาในตอนนี้
เพื่อลูกจะได้มีแรงบันดาลใจที่จะให้ความสำคัญกับตนเองในการบำเพ็ญสมณธรรมเพื่อตัวเรา
เพื่อพระพุทธศาสนา และเพื่อชาวโลก
เพราะฉะนั้น
นั่ง นอน ยืน เดิน ในทุกๆ กิจวัตรกิจกรรมอย่าให้ใจห่างจากศูนย์กลางกายฐานที่
๗ แม้มันหลุดไปบ้าง แต่เมื่อรู้ตัวก็ดึงกลับมาใหม่ แล้วก็ฝึกกันไปอย่างนี้
หลุดไปก็ดึงกลับมาให้ตั้งมั่นอยู่ภายใน
เพื่อนสหธรรมิกที่มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี
เพื่อนสหธรรมิกของเราในหลายๆ
ชุดก็มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี
ในอาคาร
๖๐ ปี
ก็มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีในระดับหนึ่ง มีความตั้งใจจริงสมกับที่หมู่คณะให้โอกาสไปทำความเพียรกันเต็มที่
โดยไม่ต้องมารับภารกิจงานหยาบ ต่างก็ประกอบความเพียรกันอย่างกลั่นกล้า อย่างเต็มที่
และมีผลการปฏิบัติตามกำลังแห่งความเพียรที่ทำอย่างถูกหลักวิชชา
อีกส่วนหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านปฏิบัติธรรม ก็มีผลแห่งการปฏิบัติธรรมที่ดีในระดับหนึ่ง
ที่เป็นเครื่องยืนยันว่า ลูกๆ ทั้งหมดนี้สามารถทำได้อย่างน้อยก็อย่างนั้น
ไม่ว่าจะมีภารกิจหยาบมากกว่าผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านปฏิบัติธรรม หรืออยู่ในอาคาร ๖๐
ปี ก็ตาม
อีกส่วนหนึ่งที่พุทธศิลป์ ซึ่งทำทั้งงานหยาบด้วย คือต้องทำ Animation ทำภาพให้เป็นแบบบทเรียนออก DMC เขาก็บริหารเวลาสำหรับบำเพ็ญสมณธรรม
ก็มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี บางท่านดีมาก บางท่านดีปานกลาง
บางท่านกำลังถึงจุดที่พร้อมที่จะเข้าไปสู่ภายในได้อย่างง่ายๆ
ของพุทธศิลป์จะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับลูกๆ
ส่วนใหญ่ ลูกพระลูกเณรที่มีกิจวัตรกิจกรรม มีงานหยาบอยู่ เราสามารถแบ่งเวลาในการบำเพ็ญสมณธรรมได้
เพราะว่าพุทธศิลป์เขามีงานหยาบอย่างที่เล่าให้ฟัง
หยาบก็เฉียบ
ละเอียดก็ฉิว
หลวงพ่อมั่นใจว่า
ลูกทั้งหมดเป็นผู้มีบุญ มีบารมีที่จะเข้าถึงธรรมได้ และเคยเข้าถึงกันมาแล้ว
แต่ปัจจุบันนี้เรายังให้ความสำคัญกับตรงนี้ได้ไม่ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ จะเป็นช่วงๆ ของอารมณ์
มักจะมีข้ออ้าง ข้อแม้ เงื่อนไขบ้าง
พรรษานี้อายุทุกคนเพิ่มขึ้น
อายุพรรษาก็เพิ่มขึ้น หลวงพ่ออยากให้เป็นพรรษาที่แตกต่างจากทุกพรรษาที่ผ่านมา
ให้ลูกให้ความสำคัญกับการบำเพ็ญสมณธรรมให้มากๆ ทำควบคู่กันไปกับภารกิจหยาบ
ให้เป็นพรรษาแห่งความมหัศจรรย์ให้ได้
ที่แม้มีงานหยาบแต่เราสามารถทำละเอียดได้ และทำได้ดีด้วย อย่างนี้ก็จะได้เป็นแบบอย่างให้กับพุทธบุตรทั่วสังฆมณฑลได้
ที่ท่านเหล่านั้นก็มีงานหยาบทั้งบริหารงานวัด ทั้งรับกิจนิมนต์ เรียนหนังสือ เป็นต้น ก็จะไม่มีข้อแม้ ข้ออ้าง
เงื่อนไขใดๆ ในเมื่อเรามีภารกิจ แต่เราทำได้
เพราะฉะนั้นท่านก็ต้องทำได้
ตอนนี้หมดยุคที่เราจะมองเฉพาะวัดของเราวัดเดียว
เป็นเรื่องที่ทั่วสังฆมณฑลจะต้องคิดเหมือนกัน
พูดเหมือนกัน และทำเหมือนกันแล้ว เป็นแต่เพียงว่าขาดต้นแบบตัวอย่าง ที่จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจว่า
แม้มีงานหยาบก็ทำงานละเอียดได้ ลูกทั้งหมดจะเป็นแรงใจ เป็นกำลังใจให้กับพุทธบุตรทั่วทั้งสังฆมณฑล
ทั้งภายในและต่างประเทศ
ฉะนั้น พรรษานี้ขอให้เป็นพรรษาที่แตกต่างจากทุกๆ
ปีที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้าลูกทำอย่างนี้ก็จะได้สุขจากสมาธิ
สุขจากสมาธิเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่
ที่จะทำให้เกิดการพัฒนาชีวิตของเราไปในทางที่ดีขึ้น และเป็นธงชัยของญาติโยมทั้งหลายด้วย
ที่แม้เขามีภารกิจหยาบ เขาก็จะมีกำลังใจที่จะทำอย่างเราด้วย
นั่งธรรมะให้ปลื้มทุกวัน
เรื่องสำคัญ ที่หลวงพ่ออยากจะฝากลูกๆ
ทั้งหมดในวันเข้าพรรษานี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ให้ตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมในระดับที่เราปลื้มใจเป็นวันต่อวัน ให้เป็นอาหารหล่อเลี้ยงใจของเรา
ปีติหล่อเลี้ยงใจของเราให้แช่มชื่น เมื่อเราห่มครองผ้ากาสาวพัสตร์ชุดนี้ด้วยความปีติและภาคภูมิใจสมกับที่เราได้ตั้งใจมาบวช
โยมพ่อ โยมแม่ ญาติโยมทุกคนสนับสนุน ทำนุบำรุง ก็ขอให้ปลื้มใจอย่างนี้เป็นวันต่อวันจนกระทั่งถึงวันออกพรรษา
เราก็จะได้มาปลื้มใจกันพร้อมๆ กัน
หลวงพ่ออำนวยพร
ในที่สุดนี้
หลวงพ่อขออนุโมทนาและขออำนวยพร และขอตั้งความปรารถนากุศลจิตด้วยความมุ่งมั่น ในพรรษานี้ให้ลูกทุกคน
จงมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง อย่าเจ็บ อย่าป่วย อย่าไข้
ให้ปลอดกังวลจากสิ่งที่เป็นข้าศึกต่อการกุศลและพรหมจรรย์ ให้เป็นผู้ที่เป็นที่รัก ที่เคารพบูชาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
ให้ลูกมีความเพียร ประกอบความเพียรอย่างแกร่งกล้าอย่างถูกหลักวิชชา
ให้ลูกเข้าถึงพระธรรมกาย เข้าถึง ๑๘ กาย เข้าถึงวิชชาธรรมกายให้ได้เป็นอัศจรรย์ จงทุกประการเทอญ
เรื่อง : หยาบก็เฉียบละเอียดก็ฉิว
โดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
ผู้ฟัง : พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา สาธุชน
สถานที่ : อุโบสถวัดพระธรรมกาย จ. ปทุมธานี
ในโอกาส : วันเข้าพรรษา
เมื่อ : วันพุธที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
เวลา : ๐๘.๓๐ - ๑๐.๐๐ น.
วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2565