บุญเป็นสิ่งที่เราจะต้องสั่งสมเอาไว้ให้มาก
ๆ
ถ้าบุญบารมีมาก
อุปสรรคก็มีน้อย
ถ้าบุญบารมีน้อย
อุปสรรคของชีวิตก็มาก
เราจะสร้างบารมีได้สะดวก สบาย ก็จะต้องอาศัยเสบียง
อาศัยสมบัติ มหาสมบัติ ยิ่งมีมากเท่าไรก็ยิ่งอำนวยความสะดวกในการสร้างบารมีให้ครบถ้วนบริบูรณ์
๓๐ ทัศ ซึ่งทรัพย์เหล่านั้นจะได้มานั้นจะต้องได้จากการสร้างมหาทานบารมี
การสร้างมหาทานบารมีจะมีได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถเอาชนะความตระหนี่ในใจ
ความหวงแหนเสียดายทรัพย์ แล้วทำถูกหลักวิชชาตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
โลกใบนี้เป็นโลกสำหรับการสร้างบารมี
ซึ่งมีเวลาจำกัดมาก มีเวลาเหลืออยู่อีกเพียงไม่กี่ปีเท่านั้นชีวิตเราก็จะต้องดับไป
เพราะฉะนั้นเราจะต้องใช้ทุกอนุวินาทีให้เป็นประโยชน์ต่อการสร้างบารมี
ให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มาพบพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย ซึ่งเป็นวิชชาที่จะทำให้เราพ้นจากบ่าวจากทาสของพญามาร
สร้างบุญในยุคที่มีพระพุทธศาสนา และวิชชาธรรมกาย เราจะได้บุญมากเป็นพิเศษ มากกว่าในยุคอื่น ที่ไม่มีพระพุทธศาสนา ไม่มีวิชชาธรรมกาย
เรามาเกิดในยุคนี้
ต้องถือว่าเป็นบุญลาภของเรา เราจะต้องใช้โอกาสที่ดีนี้สั่งสมบุญบารมีของเราให้เต็มที่
ทำให้มันสุดกำลัง สุดชีวิตไปเลย ต้องสละทั้งทรัพย์ อวัยวะ หรือชีวิต
ทั้งทำด้วยตัวเองและชวนคนอื่นมาทำด้วย อย่างนี้ถึงจะเดินตามรอยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและบัณฑิตนักปราชญ์ในกาลก่อน
ทำอย่างนี้จึงจะถูกหลักวิชชา
ชีวิตหลังจากตายแล้ว
หรือในสัมปรายภพไม่มีการทำมาค้าขาย มีแต่การเสวยผลแห่งการกระทำของเราในสมัยที่เป็นมนุษย์
มีหญิงงามเมืองคนหนึ่ง ตอนมีชีวิตอยู่
เป็นผู้มีทรัพย์มาก แต่มีความตระหนี่ หวงแหนทรัพย์ นอกจากไม่ทำทานด้วยตนเองแล้ว
ยังห้ามคนอื่นไม่ให้ทำทานด้วย ตายแล้วไปเกิดในเปตโลก ไปเป็นเปรต มีร่างกายเปลือยเปล่า
ผอมแห้งเหลือแต่โครงกระดูก เวลาหิวกระหายน้ำ จะไปดื่มน้ำ เห็นแม่น้ำอยู่
แต่พอจะไปดื่ม น้ำนั้นก็หายไปเลย แล้วเวลาโดนลมพัดมาทีก็ร้อนไปทั้งตัว
จนกระทั่งไหม้ตายแล้วก็เกิดมาเป็นเปรตใหม่
ทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้
จนกระทั่งมาเจออุบาสกท่านหนึ่งที่ริมฝั่งแม่น้ำ
มองเห็นก็จำได้ สมัยเป็นมนุษย์ ก็มาปรากฏกายให้เห็น อุบาสกถามว่า เธอคือใคร
บอกเราเป็นเปรต สมัยเป็นมนุษย์ชื่อนั้น นามสกุลนั้น มีทรัพย์สมบัติมาก แต่มีความตระหนี่
ไม่ให้ทานด้วยตัวเอง และยังห้ามผู้อื่นอีกด้วย ตายแล้วก็มาเป็นเปรต มีความทุกข์ทรมานมาก
ถ้าหากว่าใช้ชาติเป็นเปรตหมดไปแล้วก็จะต้องไปตกนรกต่อไปอีก
จะยิ่งทุกข์ทรมานกว่าเป็นเปรตนี้อีก อีกยาวนาน
อุบาสกถามว่า แล้วจะให้ช่วยอย่างไร นางบอกว่า
ให้กลับไปบอกมารดาของตนที่บ้านว่า ได้เอาทรัพย์ซ่อนเอาไว้ที่ใต้เตียง ๔
แสนกหาปณะให้นำทรัพย์นั้นมาบริจาคทาน ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุผู้ประพฤติธรรม แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้
นั่นแหละจึงจะพ้นจากสภาพการเป็นเปรต และเมื่อพ้นสภาพนี้แล้วก็จะไม่ต้องไปตกนรกต่อไปอีก
อุบาสกสงสาร กลับไปบ้าน ก็ไปบอกมารดาของเปรตนั้นว่า
มีทรัพย์ของลูกสาวซ่อนอยู่ที่ใต้เตียง ให้นำทรัพย์นั้น บริจาคทำทานในพระพุทธศาสนา แล้วก็อุทิศส่วนกุศลไปให้ลูกสาวที่เป็นเปรต
เมื่อมารดาของเปรตนั้นได้ทำตามคำแนะของอุบาสกแล้วก็อุทิศส่วนกุศลไปให้ลูกสาว
ก็เปลี่ยนจากภพภูมิของเปรตมาเป็นเทพธิดา ก็มาปรากฏกายให้มารดาของตนได้เห็น และเล่าเรื่องราวต่าง
ๆ ของตน และแนะนำให้มารดาสั่งสมบุญไปเรื่อย ๆ ละอัตภาพจากการเป็นเปรตไปเป็นเทพธิดา
แล้วก็ไปเสวยสุขอยู่บนชั้นดาวดึงส์
เพราะฉะนั้น
เรื่องความตระหนี่ และการห้ามคนอื่นให้ทานนี้มีผลมาก อันตรายอย่างยิ่งของชีวิต
การที่เราไปทำหน้าที่ผู้นำบุญไปเป็นยอดกัลยาณมิตรก็เพื่อให้เพื่อนมนุษย์นั้นได้เห็นอันตรายของความตระหนี่
ให้รู้จักว่ามันอันตรายมาก เพราะฉะนั้นใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ด้วยการสร้างบารมี
มีผู้ไม่รู้อย่างนี้อีกเยอะแยะมากมาย ที่รอคอยพวกเราอยู่
ถ้าเราไม่ทำหน้าที่ตรงนี้ มันก็น่าเสียดายที่เพื่อนมนุษย์อีกมากจะไปอบายโดยที่ไม่รู้ตัว
เราไปทำหน้าที่ตรงนี้ เท่ากับชี้หนทางสว่างให้เขา และให้เขารู้จักเปลี่ยนโลกียทรัพย์เป็นอริยทรัพย์ที่สามารถนำติดตัวไปในภพเบื้องหน้า
ให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป
ได้สร้างบารมีขึ้นไปเรื่อย ๆ เท่ากับช่วยชี้ทางสวรรค์และความสว่างของชีวิตจนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง
คุณครูไม่ใหญ่
๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๕
(บ่าย)
วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2565