เราได้กล่าวคำอธิษฐานอยู่จำพรรษาที่วัดพระธรรมกายกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
กำหนดขอบเขตต่างๆ เราก็ได้รับทราบกันแล้ว ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องพระวินัย เราจะยังไม่ลงรายละเอียดในที่นี้
วัตถุประสงค์การบวช
วัตถุประสงค์หลักของการมาบวช
คือ การทำพระนิพพานให้แจ้ง สลัดตนให้พ้นจากกองทุกข์ วัตถุประสงค์รองลงมา คือ การสั่งสมบุญ
สร้างบารมี บำเพ็ญเนกขัมมบารมีของเราให้เพิ่มขึ้น คือ
เริ่มต้นบวชกัน ตั้งแต่ระยะสั้น ๑ พรรษา แล้วก็ค่อยๆ
สั่งสมบุญบวชระยะยาวเพิ่มขึ้นเป็นหลายๆ พรรษา จนกระทั่งบวชตลอดจนหมดอายุขัย
รองลงมาก็คือ การสั่งสมบารมีกันอย่างนี้
เข้าพรรษา ช่วงเวลาปฏิบัติธรรม
ตอนนี้ ลูกทุกรูปได้เป็นสายโลหิตแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันแล้ว
จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการมาบวชในคราวนี้
ฤดูฝนนี้ที่เราจะอยู่จำพรรษาร่วมกันมีเวลาแค่
๓ เดือนเท่านั้น ซึ่งไม่นานเลย เป็นฤดูกาลที่เหมาะสมต่อการบำเพ็ญสมณธรรมอย่างยิ่ง เพราะไม่ร้อนเกิน
ไม่หนาวเกิน อากาศเป็นสัปปายะเหมาะสมในการบำเพ็ญสมณธรรม แล้วเราก็จะได้อยู่จำพรรษา
บำเพ็ญสมณธรรมร่วมกัน ใครติดขัดปัญหาการปฏิบัติข้อไหนจะได้ซักถามกันได้
ถ่ายทอดความรู้ Khow-how ในการปฏิบัติธรรมซึ่งกันและกัน ช่วงเวลาเข้าพรรษาจึงเป็นช่วงเวลาที่ดี
ถ้าเราได้ใช้ทุกอนุวินาทีของการมาบวชให้ได้บรรลุวัตถุประสงค์
ต้องบวชให้ได้ ๒ ชั้น
พรรษานี้เป็น “พรรษาแห่งการยกชั้นเข้าถึงธรรม”
ทั้งผู้มาใหม่และผู้อยู่เก่า แม้ผู้มาบวชใหม่ที่ตั้งใจว่า จะบวชแค่ช่วงสั้นๆ คือ ตั้งใจจะอยู่จำพรรษาสัก
๑ พรรษา ออกพรรษาแล้วอยู่รับกฐินและออกเดินธุดงค์เพื่อไปพัฒนาวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง
แม้จะบวชช่วงสั้นๆ
ก็ตาม เมื่อบวชแล้ว เป็นสายโลหิตแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ต้องตั้งใจให้เป็นพระที่ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้
แม้ว่าเรายังไม่ได้เป็นพระอริยเจ้าก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ต้องรู้จักหนทางในการมาสู่ความเป็นพระอริยเจ้า
ต้องตั้งใจบวช และต้องบวชให้ได้ ๒ ชั้น
ข้างนอกเราก็บวชแบบ ญัตติจตุตถกรรม ที่เราได้ทำพิธีกรรมกันมาแล้วในหมู่สงฆ์
มีพระอุปัชฌาย์ มีคณะสงฆ์ต่างๆ เหล่านั้น แต่ความรู้สึกความเป็นพระของเรายังไม่บริบูรณ์
สังเกตดูเวลาเราหลับแล้ว ยังฝันว่าเรายังเป็นคฤหัสถ์นะ หรือบางทีความนึกคิด หรืออะไรต่างๆ
ยังเผลอทำแบบคฤหัสถ์ก็มี
จะเป็นพระที่สมบูรณ์เพิ่มขึ้น
ก็ต้องบวชให้ได้ ๒ ชั้น คือ ต้องบำเพ็ญสมณธรรมจนกระทั่งใจหยุดนิ่งกลับเข้าไปสู่ภายใน
แล้วเข้าถึงพระธรรมกายในตัว รู้จักสรณะที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริงว่า มีลักษณะเป็นอย่างนี้
เราได้ยินได้ฟังมาบ่อย แต่ถ้าเรายังเข้าไม่ถึงก็จินตนาการไม่ออกว่า
พระในตัวมีลักษณะเป็นอย่างไร เข้าถึงแล้วมีความสุข ความบริสุทธิ์ เป็นต้น อย่างนี้
ความสุขที่เข้าถึงพระธรรมกายในตัวนี้ เป็นสิ่งที่จินตนาการไม่ได้
ต้องเข้าถึงจริงๆ ความบริสุทธิ์ในการเข้าถึงเป็นอย่างไรก็จินตนาการไม่ออก ต้องเข้าถึง
ถ้าเราบวชแล้วได้อย่างนี้แม้บวชช่วงสั้นๆ แค่ ๑ พรรษาก็ตาม ก็ได้ชื่อว่า มาบวชเป็นพระแล้วได้ทำให้ชีวิตพระนี้ดีที่สุด
เป็นพระดีที่สุดในระดับที่เรามีความปลื้มปีติและภาคภูมิใจในตัวของเราเอง
แตกต่างจากวันเวลาที่ผ่านมาตอนเป็นคฤหัสถ์ว่า เราจะหาช่องที่จะมาปีติและภาคภูมิใจในตัวเองนี่มันหาไม่ได้
แต่วันใดเมื่อเราเข้าถึงพระในตัว ความปีติและภาคภูมิใจก็จะเกิดขึ้น ใจจะเป็นใหญ่อยู่ในตัวเอง
มีอิสรภาพ มีปีติสุขหล่อเลี้ยงใจ เพราะฉะนั้นบวชมาแล้วแม้ช่วงสั้นก็ต้องเป็นอย่างนี้
โอวาทพระเก่า
ผู้บวชอยู่เก่า ผ่านกาลเวลามานานจนเป็นพระเถระแล้ว
แม้ว่าจะมีภารกิจเกี่ยวกับงานพระศาสนาก็ตาม แต่ก็ต้องไม่ให้เป็นข้อแม้ ข้ออ้าง และเงื่อนไขใดๆ
ทั้งสิ้นที่จะไม่ให้เราบำเพ็ญสมณธรรม
ในพรรษานี้ ขอให้แตกต่างจากพรรษาที่ผ่านๆ มา
ให้พระเถระทั้งหลายที่นับวันพรรษาก็จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ให้ความสำคัญเรื่องการบำเพ็ญสมณธรรมให้มากขึ้นไปกว่าเดิมควบคู่กับภารกิจประจำวัน
ปีติสุขที่หล่อเลี้ยงใจนี้จะเป็นกำลังใจในการสร้างบารมีให้ได้ตลอดรอดฝั่ง
เมื่อตัดสินใจทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง มาบวชแล้วก็ต้องให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการบวช
และบวชให้ได้ตลอดรอดฝั่ง เอาผังสำเร็จแห่งการบวชตลอดชีวิตติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ
จะได้เป็นกำลังใจสำหรับผู้ที่มาในภายหลัง อย่าให้เราแก่ไปฟรีๆ เจ็บไปฟรีๆ
แล้วก็ตายไปฟรีๆ นี่เป็นเรื่องที่สำคัญ
โลกคอยความหวัง
ถ้าหมู่คณะของเราตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมได้เต็มที่
ก็จะเป็นกำลังให้กับสังฆมณฑลตามวัดวาอารามต่างๆ ที่ท่านไม่มีกำลังใจ
หรือบวชไปงั้นๆ จะได้หันกลับมาประพฤติปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพิ่มขึ้น
ที่ท่านทำดีอยู่แล้วก็จะดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
หมู่คณะของเราก็ได้เป็นกำลังใจแก่สังฆมณฑลทั่วๆ ไป
ในช่วงเวลานี้ หมู่คณะเราถ้ารวมทั้งภายในและต่างประเทศ
ถือว่ามีจำนวนพระภิกษุสามเณรมากที่สุด ต้องถือว่าเป็นกำลังหลักของพระพุทธศาสนา
ถ้าลูกทุกรูปมีความตระหนัก มีความเข้าใจถึงความสำคัญของตัวเราเองอย่างนี้แล้ว
พรรษานี้ก็จะเป็นพรรษาอัศจรรย์ที่เราจะยอยกพระพุทธศาสนา
กอบกู้พระพุทธศาสนาให้กลับมาเฟื่องฟูเหมือนย้อนยุคพุทธกาล
หรืออย่างน้อยยุคโบราณกาลที่ผ่านมา นี้ก็จะเป็นบารมีพิเศษสำหรับทุกๆ รูป ที่ได้ตั้งอกตั้งใจทำกันไปอย่างนี้
เพียรและทำถูกหลักวิชชา
การเข้าถึงธรรมนั้นไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย กำลังพอดีๆ คือ ต้องประกอบความเพียรอย่างกลั่นกล้า
อย่างถูกหลักวิชชา ถ้าทำอย่างถูกหลักวิชชาแล้ว ทุกรูปต้องสมความปรารถนาอย่างแน่นอน
เรายังมีสิ่งที่จะต้องศึกษาเรียนรู้อีกเยอะในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
โดยเฉพาะวิชชาธรรมกายที่เราได้ยินได้ฟังกันมายาวนาน เราแค่ได้ยิน แต่เรายังไม่รู้จัก
จะรู้จักก็ต้องเกิดจากการรู้แจ้ง รู้แจ้งที่เกิดจากการเห็นแจ้ง
เมื่อใจหยุดนิ่งอยู่ภายในจะเห็นความสำคัญของวิชชานี้ทีเดียว ที่จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
สมบูรณ์ขึ้น บริสุทธิ์บริบูรณ์เพิ่มขึ้น
อานิสงส์สร้างสิ่งแวดล้อมที่สัปปายะ
พรรษานี้เป็นพรรษาที่สำคัญ
ขอให้เป็นพรรษาที่ดีกว่าพรรษาที่ผ่านๆ มา ผู้ที่ปฏิบัติดีอยู่แล้วก็พยายามประคองทำให้ดียิ่งๆ
ขึ้น ผู้ที่มาใหม่ก็ตั้งอกตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมกันให้ดี
ช่วยกันรับบุญพิเศษ
คือ สร้างสิ่งแวดล้อมให้เป็นสัปปายะ เหมาะสมที่จะบำเพ็ญสมณธรรม ต้องเกื้อกูลกัน
ต้องรู้รักสามัคคีกัน ประคับประคองกันไป ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เมื่อสิ่งแวดล้อมเป็นสัปปายะ
การเข้าถึงธรรมก็จะง่ายๆ
เพราะหลักวิชชานั้นต้องสบาย
คำว่า “สบาย” นั้นลึกซึ้งกว่าที่เราเคยเข้าใจ
เพราะถ้าสร้างสิ่งแวดล้อมทำให้รู้สึกสบายๆ จะได้ดู ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังอะไรตรงไหนก็แล้วแต่
มันทำให้ใจสบาย เบิกบาน
ใจที่สบาย
เบิกบานอย่างนี้ ความบริสุทธิ์จะได้ช่อง ใจก็จะหยุดนิ่งได้ง่าย นี้เป็นอานิสงส์พิเศษ
บารมีพิเศษสำหรับผู้ที่ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความเป็นสัปปายะให้เกิดขึ้น ที่จะช่วยทำให้เราเข้าถึงธรรมได้อย่างง่ายๆ
หลวงพ่ออำนวยพร
ในที่สุดนี้ หลวงพ่อขออนุโมทนาสาธุการ และขออำนวยพร
ขอให้พรรษานี้เป็นพรรษาพิเศษ ให้ลูกทุกรูปจงมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง อย่าเจ็บ
อย่าป่วย อย่าไข้ ให้ปลอดจากสิ่งที่เป็นข้าศึกต่อการกุศลและการประพฤติพรหมจรรย์
ให้ได้เข้าถึงพระธรรมกาย ได้เข้าถึงวิชชาธรรมกาย แทงตลอดในวิชชาธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ
พระองค์ จงทุกประการเทอญ
รหัสต้นฉบับถอดเสียง : 55-08-03 C-TMT 55-208
เรื่อง : ยกชั้นเข้าถึงธรรม
โดย : พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)
ผู้ฟัง : พระภิกษุ-สามเณร
สถานที่ : ณ อุโบสถ วัดพระธรรมกาย จ. ปทุมธานี
ในโอกาส : วันเข้าพรรษา
เมื่อ : วันศุกร์ที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา : ๐๙.๓๐ - ๑๑.๐๐ น.
วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2565