ผ้าสีสุดท้าย ๑
หนังสือผ้าสีสุดท้าย
วันอังคารที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙
ลูกเณรรู้ตัวหรือเปล่าว่า ลูกเณรมีบุญมากที่ได้มาศึกษา
พระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เขาจะวัดว่าใครมีบุญ
มากบุญน้อย วัดกันตรงนี้ วัดว่าใครดับทุกข์ได้ เป็นผู้บริสุทธิ์
หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะไปสู่อายตนนิพพานได้ อย่างนี้เขา
ถือว่าเป็นผู้มีบุญมากที่สุด เขาไม่ได้ดูว่า ใครเป็นนายกรัฐมนตรี
เป็นมหาเศรษฐีของโลก เป็นพระเจ้าจักรพรรดิแค่นั้นนะ นั่น
มีบุญเหมือนกัน แต่มีบุญระดับปานกลาง มีบุญมากที่สุดต้อง
ไปสู่พระนิพพานการมีบุญที่ได้เป็นเทือกเถาเหล่ากอของสมณะอย่าง
ที่ลูกเณรเป็น มีเครื่องแบบชุดสุดท้ายของสังสารวัฏ คือผ้า
กาสาวพัสตร์ที่ลูกเณรได้ครองอยู่ ถือเป็นผ้าผืนสุดท้ายที่ไม่มี
การเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว
ในสมัยพุทธกาล แม้เกิดเป็นพระราชามหากษัตริย์อย่าง
พระมหากัปปินะ ในที่สุดพระองค์ก็ต้องทิ้งเครื่องทรงพระราชา
มาสวมใส่ชุดนี้ หรือมหาเศรษฐีที่มีสมบัติตักไม่พร่องอย่างท่าน
โชติกเศรษฐี สุดท้ายก็มาสวมชุดนี้ จะเกิดเป็นคนชั้นสูง ชั้น
กลาง หรือชั้นล่าง ในที่สุดก็ต้องมาอยู่ในชุดนี้
แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เวียนว่ายตาย
เกิดมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเกิดเป็นพระราชามหา
กษัตริย์ก็ดี เป็นสามัญชนก็ดี ตอนสุดท้ายพระองค์ก็สละราช
สมบัติออกบวชบำเพ็ญพรต ครองผ้ากาสาวพัสตร์เป็นชุด
สุดท้ายก่อนไปอายตนนิพพาน เหมือนเป็นชุดที่รวมบุญ รวม
บารมี รวมคุณความดีทั้งหมด มาสู่ชุดนี้ คล้ายกับมหาสมุทร
เป็นที่รวมของแม่น้ำทุกสาย จากห้วย หนอง คลอง บึง จาก
ป่าเขาอย่างนั้นถ้าใครได้สวมเครื่องแบบชุดนี้ มีนิพพานเป็นที่ไป
หมายถึงว่ามีบารมีที่สั่งสมมานับภพนับชาติไม่ถ้วน เวียนว่าย
ตายเกิด เป็นอะไรมาสารพัด สุดท้ายก็จะต้องอยู่ในชุดผ้า
กาสาวพัสตร์ ที่ลูกเณรกำลังสวมอยู่ ถ้าหากมีเครื่องแบบ
ที่แตกต่างจากนี้ไป นั่นแสดงว่ายังต้องเวียนว่ายตายเกิด สร้าง
บุญสร้างบารมีไปอีกยาวนานทีเดียว
กว่าจะได้มีโอกาสมาสวมชุดนี้ ไม่ใช่ง่ายๆ นะ สีสุดท้าย
ของมวลมนุษยชาติ ต้องเป็นสีทองคำบริสุทธิ์ผุดผ่องนี้ ทอง
เกิดขึ้นมาก็งามตั้งแต่เกิด เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีมูลค่า มูลค่า
คือราคา ทองไปอยู่ที่ไหนก็มีราคา ไม่ว่าจะอยู่ในโคลนตม
ในป่าเขา หรือในห้วย หนอง คลอง บึง สีทองเป็นสีแห่งความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เหมือนดวงใจที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง เต็มเปี่ยมไปด้วยบุญกุศลที่ลูกเณรได้สั่งสมมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ทำให้ลูกเณรมีคุณค่า และมีราคาสมกับที่ได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ เพราะฉะนั้นชุดนี้ไม่ใช่ชุดธรรมดา เป็นชุดสำหรับผู้มีบุญมาสวมใส่
แล้วดูการออกแบบจีวรที่เราห่ม พระพุทธเจ้ารับสั่ง
ให้พระอานนท์ออกแบบ ถอดแบบมาจากคันนา เป็นช่องๆ
เนื่องจากผ้าในสมัยก่อนหายาก เวลาผ้าขาดช่องไหนจะได้
นำผ้าผืนเล็กๆ มาปะซ่อมได้ง่าย เป็นชุดที่ออกแบบดีแล้ว
ทันสมัยอยู่เสมอ ชุดนอน ชุดเที่ยว ชุดเดียวกัน ใช้ได้ตั้งแต่เด็ก
อยู่ในท้องเขาก็นิมนต์ไปทำบุญ คลอดมาแล้วไปเยี่ยมเยียน
ก็ใช้ชุดนี้ จนกระทั่งถึงวันคล้ายวันเกิด วันแต่งงาน งานบำเพ็ญ
บุญ กระทั่งวันตาย ตั้งแต่เกิดกระทั่งตาย เราไปชุดนี้ แต่ของ
ชาวโลกเดี๋ยวนุ่งยาว นุ่งสั้น หลากสีสัน เพราะเขายังไม่รู้ว่า
จะเอาอย่างไร
ชุดนี้สวมไปที่ไหนคนก็ยกมือไหว้ ถ้าสวมชุดอื่นต้องไป
ไหว้เขา ชุดนี้แค่ประคองบาตรใบหนึ่ง ใครๆ เห็นก็ดีใจ มีอะไร
ก็อยากนำมาถวาย ข้าวปากหม้อ อาหารรสเลิศ นำมาใส่ให้
บางทีภายในบ้านเขายังไม่มีโอกาสได้ทานเลย และน่าแปลก
ยิ่งให้เขายิ่งดีใจ ซึ่งปกติชาวโลกยิ่งได้ยิ่งดีใจ แต่เมื่อเห็นชุดของ
ลูกเณร ดีอกดีใจ มาแล้ว ปลุกกันทั้งบ้าน ตื่นมาแต่เช้า เตรียม
อาหารอย่างดีมาใส่บาตร เพราะฉะนั้นลูกเณรให้รู้เถอะนะ
ว่าลูกเณรเป็นผู้มีบุญมีบารมีมากที่ได้สวมเครื่องแบบชุดนี้
ชุดนี้สำคัญ ต้องรักษาเครื่องแบบชุดนี้ให้ยิ่งกว่าชีวิต
คือ ตายได้ แต่ว่าเครื่องแบบนี้จะต้องรักษาไว้อยู่แนบกาย
เป็นชุดที่มนุษย์ เทวดา เคารพกราบไหว้ เป็นชุดที่พระราชา
มหากษัตริย์สละราชสมบัติมานับภพนับชาติไม่ถ้วนเลย เพื่อ
ที่จะมาครองเพศนี้ ครองเครื่องแบบชุดนี้
๏ ทรงผมสุดท้าย
ทรงผมทรงสุดท้ายที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้วของผู้มี
บุญ ก็คือทรงผมของนักบวช พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแนะนำ
ทรงนี้ดีที่สุด มีมีดโกนเป็นธรรมาวุธ เป็นหวีคู่กาย หวีเดือน
ละครั้ง สองครั้งก็ใช้ได้ แต่หวีทางโลกต้องหวีทุกวัน เพราะ
ฉะนั้นผมทรงนี้เป็นทรงสุดท้ายนะลูกเณรนะ แต่ผมบนหัวคน
ที่ยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เดี๋ยวยาว เดี๋ยวสั้น เดี๋ยวหยิก เดี๋ยว
เหยียด นั่นเขายังไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรถึงจะดี
๏ พระบาลี
กว่าที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะมาบังเกิดขึ้นแต่ละ
พระองค์นั้นยากมาก และกว่าพระองค์จะมีความรู้ที่ลูกเณร
กำลังเล่าเรียนอยู่นี้ ต้องสร้างบารมี สร้างความดีมายาวนาน
ทีเดียว สละโลหิตมากกว่าน้ำในท้องพระมหาสมุทร สละ
เนื้อมากกว่าพื้นที่บนแผ่นดิน ควักลูกนัยน์ตาให้ทานมากกว่า
ดวงดาวบนท้องฟ้า ตัดศีรษะบูชาธรรมมากกว่าผลมะพร้าว
ทั้งชมพูทวีป พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบางพระองค์สร้างบารมี
ถึง ๘๐ อสงไขยกับแสนมหากัป ทั้งนึกในใจ เปล่งวาจา จนได้
รับพุทธพยากรณ์ บางพระองค์ ๔๐ อสงไขยกับแสนมหากัป
บางพระองค์อย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นี้สร้างบารมี
๒๐ อสงไขยกับแสนมหากัป อสงไขย แปลว่า นับไม่ไหว คือสร้างบารมีนับภพนับชาติไม่ถ้วน สิ่งที่นับไม่ไหวมารวมกัน ๘๐, ๔๐, ๒๐ เศษอีกแสนมหากัป แล้ววันที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้อง
สละชีวิตเข้าไปค้นความรู้ กว่าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
นี่ยากมาก เมื่อตรัสรู้แล้วท่านทรงนำความรู้นั้นมาถ่ายทอด
สั่งสอนสืบต่อกันเรื่อยมาเป็นเวลาสองพันกว่าปี พระธรรม
คำสอนอันทรงคุณค่านั้นถูกเก็บไว้เป็นภาษาบาลี ในตำรับ
ตำราที่ลูกเณรกำลังเล่าเรียนอยู่นี้ เป็นคำสอนที่มีประโยชน์
ศึกษาแล้วจะเป็นแบบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ก็เหลือ
พระธรรมคำสอนเป็นพระศาสดาแทนพระองค์ เพราะฉะนั้น
ลูกเณรมีบุญมากๆ ที่ได้ศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่เก็บไว้เป็นภาษาบาลี ดังนั้นเวลาลูกเณรเรียนต้องเรียน
เหมือนกับเราเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีความคิดอย่างนี้
ว่า ทุกตัวอักษรที่เก็บไว้เป็นภาษาบาลี คือองค์แทนของท่าน
เรียนด้วยความเคารพ เรียนด้วยความกระหายอยากจะรู้ว่า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสสอนอะไร อะไรที่ทำให้เป็น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วศึกษาอย่างทุ่มเทชีวิตจิตใจ ให้รู้
ทั่วถึง ให้แตกฉานอย่าไปคิดว่า จะเรียนเพื่อให้สอบได้ จะได้เป็นมหา
เปรียญอย่างเดียว สอบได้นั้นให้ถือเป็นผลพลอยได้ ถ้าหาก
ลูกเณรคิดเพียงแค่จะเรียนให้สอบได้เป็นมหาเปรียญ จะได้
มีหน้ามีตา คิดแค่นี้เขาเรียกว่าคิดแบบเด็กๆ ลูกเณรแม้จะ
เป็นเด็กแต่ต้องมีหัวใจเป็นผู้ใหญ่ ไม่หวังเพียงแค่ให้สอบได้
จะได้มีวิทยฐานะเทียมหน้าเทียมตาเขา เราไม่หวังเพียง
แค่นั้น ต้องหวังว่าเราจะต้องเรียนรู้ให้ทั่วถึงคำสอนของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เก็บไว้เป็นภาษาบาลี คล้ายกับ
พระราหุลที่กำเม็ดทราย แล้วมีความปรารถนาที่จะเรียนรู้
คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ได้เท่ากับปริมาณของ
เม็ดทรายที่อยู่ในกำมือทุกวัน
ลูกเณรต้องคิดอย่างนี้นะ จะทำให้เรามีความเข้มแข็ง
คึกคักอยากจะรู้ แล้วใจจะไม่ไปไหน จะเรียนด้วยความเคารพ
เรียนด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน เรียนด้วยความสุข มี
ความปีติ มีความเบิกบานว่า โอ...เรามีบุญมากจริงๆ นะ ได้
เข้ามาใกล้คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะคำสอน
ที่นอกเหนือจากนี้ที่อยู่ในโลก เขาเรียนไปเพื่อครองเรือน
มีครอบครัว มีลูกมีเต้า มีภาระ มีพันธะของชีวิต ชาวโลกเขา
เรียนกันอย่างนั้น แต่ลูกเณรเรียนความรู้ที่จะทำให้หลุดพ้น
จากโลก เรียนให้เป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ
บุคคลย่อมเกิดในตระกูลกษัตริย์
ด้วยพรหมจรรย์อย่างต่ำ
เกิดในเทวโลก
ด้วยพรหมจรรย์อย่างกลาง
และบริสุทธิ์ได้
ด้วยพรหมจรรย์อย่างสูง
ขุ.ชา.(บาลี) ๒๗/๑๑๘๖/๒๔๙
วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560