๑๒.
น้ำเต้าจมน้ำ
เมื่อพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพยากรณ์นิมิตแห่งความฝัน
ประการที่ ๑๑ จบแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ทรงเล่านิมิตแห่งความฝันประการที่ ๑๒
ให้พระบรมศาสดาฟังต่อว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันฝันเห็นน้ำเต้าที่มีลักษณะผิดธรรมชาติ
เพราะมันจมน้ำได้ นิมิตแห่งความฝันนี้จะมีผลเป็นอย่างไรหรือพระเจ้าข้า”
เมื่อพระบรมศาสดาได้ฟังนิมิตแห่งความฝันประการที่
๑๒ จบแล้ว ก็ทรงพยากรณ์ความฝันว่า
“มหาบพิตร ผลของความฝันนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในสมัยของพระองค์
และในยุคสมัยที่พระศาสนาของเราเจริญรุ่งเรืองอยู่
แต่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตกาล เมื่อโลกถึงยุคเสื่อม คือ เสื่อมจากศีลธรรม
ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม
โดยพระราชาผู้เบาปัญญานี้
จะไม่พระราชทานยศถาบรรดาศักดิ์ใด ๆ ให้แก่คนที่อยู่ในตระกูลสูง หรือเหล่าคนดีที่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม แต่จะพระราชทานยศถาบรรดาศักดิ์ให้แก่ผู้ที่อยู่ในตระกูลต่ำทราม
หรือเหล่าคนพาลที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม
และประจบสอพลอเก่ง
ทำให้ในยุคนั้นพวกที่อยู่ในตระกูลต่ำทรามหรือเหล่าคนพาลที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรมอีกทั้งประจบสอพลอเก่งจะมีฐานะร่ำรวยและเป็นใหญ่เป็นโตในบ้านเมือง ส่วนพวกที่อยู่ในตระกูลสูงหรือเหล่าคนดีที่ตั้งอยู่ในศีลในธรรมจะมีฐานะลำบากยากจน
และไม่มีบทบาททางสังคม
คำพูดของพวกที่อยู่ในตระกูลต่ำทราม หรือเหล่าคนพาลที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรมและประจบสอพลอเก่งจะเป็นหลักเป็นฐานและมีน้ำหนักมากกว่าพวกที่อยู่ในตระกูลสูงหรือเหล่าคนดีที่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม
เหมือนดั่งน้ำเต้าที่ปกติจะลอยน้ำ แต่มาบัดนี้กลับจมน้ำนั่นเอง
ฉะนั้น ความฝันนี้จะไม่ทำให้เกิดภัยใด ๆ
แก่มหาบพิตรอย่างแน่นอน เพราะสิ่งนี้จักบังเกิดขึ้นในอนาคต ขอเชิญมหาบพิตรตรัสเล่าความฝันประการที่ ๑๓
ต่อไปเถิด”
(โปรดติดตามต่อไป)
วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564