๔. ใช้โคเล็กเทียมเกวียน
เมื่อพระบรมศาสดาทรงพยากรณ์นิมิตแห่งความฝันประการที่
๓ จบแล้ว ก็ทรงเล่านิมิตแห่งความฝัน ประการที่ ๔ ให้พระบรมศาสดาฟังต่อว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
หม่อมฉันฝันเห็นคนทั้งหลายไม่ใช้โคตัวโต ๆ ที่มีกำลังพอที่จะลากเกวียนไปได้
แต่พวกเขากลับพากันใช้โคแรกรุ่น โคเด็ก ๆ ที่มีกำลังน้อย และเพิ่งฝึกเทียมเกวียน
เมื่อโคแรกรุ่นต้องเทียมเกวียนที่มีน้ำหนักมาก สุดท้ายก็ไปไม่ไหว ก็พากันสลัดแอกหยุดยืนอยู่เฉย
ๆ นิมิตแห่งความฝันนี้จะมีผลเป็นอย่างไรหรือพระเจ้าข้า”
เมื่อพระบรมศาสดาได้ฟังนิมิตแห่งความฝันประการที่
๔ จบแล้ว พระองค์ก็ทรงพยากรณ์ความฝันว่า “มหาบพิตร ผลของความฝันนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในสมัยของพระองค์
และในยุคสมัยที่พระศาสนาของเราเจริญรุ่งเรืองอยู่ แต่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตกาล
เมื่อโลกถึงยุคเสื่อมจากศีลธรรม ซึ่งจะอยู่ในรัชสมัยของพระราชาผู้มีบุญน้อย
และไม่ตั้งอยู่ในธรรม
พระราชาในยุคนั้นจะไม่พระราชทานยศตำแหน่งให้แก่เหล่าอำมาตย์ผู้เป็นบัณฑิต
นักปราชญ์ที่ฉลาดในราชกิจทั้งปวง แต่จะพระราชทานยศตำแหน่งให้แก่คนหนุ่ม ๆ
ซึ่งยังขาดประสบการณ์ และไม่เข้าใจราชประเพณีต่าง ๆ เมื่อไม่สามารถทำราชกิจให้สำเร็จลุล่วงลงไปได้
ก็จะพากันทอดทิ้งธุระหรือหน้าที่การงานที่ได้รับผิดชอบ จนเป็นผลทำให้บ้านเมืองได้รับความเสียหาย
เหมือนดั่งการที่คนจับโคแรกรุ่น มีกำลังน้อยมาเทียมเกวียนแทนโคตัวโต ๆ
เมื่อลากเกวียนไม่ไหวก็จะพากันดูอยู่เฉย ๆ
ฉะนั้น ความฝันนี้จะไม่ทำให้เกิดภัยใด
ๆ แก่มหาบพิตรอย่างแน่นอน เพราะสิ่งนี้จะบังเกิดขึ้นในอนาคต ขอเชิญมหาบพิตรตรัสเล่าความฝันประการที่
๕ ต่อไปเถิด”
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2564