๑๕. ฝูงพญาหงส์ทองแวดล้อมฝูงกา
เมื่อพระบรมศาสดาทรงพยากรณ์นิมิตแห่งความฝันประการที่
๑๔ จบแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลก็เล่านิมิตแห่งความฝันประการที่ ๑๕
ให้พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าฟังต่อว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
หม่อมฉันฝันเห็นฝูงพญาหงส์ทองซึ่งมีขนสีทองสวยงามพากันแวดล้อมฝูงกาที่มีรูปร่างลักษณะอันชั่วช้าและก็ชอบออกหากินตามบ้านเรือน
ราวกับเป็นบริวารของพวกมัน นิมิตแห่งความฝันนี้
จะมีผลเป็นอย่างไรหรือพระเจ้าข้า”
เมื่อพระบรมศาสดาได้ฟังนิมิตแห่งความฝันประการที่
๑๕ ของพระเจ้าปเสนทิโกศลจบแล้ว พระองค์ก็ทรงพยากรณ์ความฝันว่า
“มหาบพิตร ผลของความฝันนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในสมัยของพระองค์
และในยุคสมัยที่พระศาสนาของเราเจริญรุ่งเรืองอยู่
แต่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตกาลเมื่อโลกถึงยุคเสื่อม
ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม และเป็นคนพาล
ในยุคนั้น
พระราชาทั้งหลายจะเบาปัญญา และขาดความเฉลียวฉลาดในศิลปวิทยาทั้งหลาย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรบหรือเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน
พระราชาในยุคนั้นจะไม่พระราชทานยศตำแหน่งหรืออำนาจใด ๆ ให้แก่คนที่อยู่ในตระกูลสูง
หรือเหล่าคนดีมีศีลมีธรรม เพราะกลัวคนที่อยู่ในตระกูลสูง
หรือเหล่าคนดีมีศีลธรรมจะมาเสมอเหมือนตัวเอง
แต่จะพระราชทานให้แก่คนที่อยู่ในตระกูลต่ำ
หรือเหล่าคนพาลที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม หรือเหล่าข้าทาสบริวารชั้นต่ำ
เมื่อเป็นเช่นนี้
กลุ่มคนที่มีชาติตระกูลสูง หรือเหล่าคนดีมีศีลธรรม ก็จะมีชีวิตที่ลำบากและฝืดเคือง
เพราะไม่มีอำนาจใด ๆ ทางสังคมเลย
อีกทั้งพวกเขาเหล่านั้นยังต้องพึ่งพาและรับใช้กลุ่มคนที่มีชาติตระกูลต่ำทราม
หรือเหล่าคนพาลที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม ซึ่งมียศตำแหน่งและอำนาจทางสังคมมากกว่า
เหมือนดั่งฝูงพญาหงส์ทอง ที่ต้องกลับกลายเป็นบริวารของเหล่าฝูงกาที่มีรูปร่างลักษณะอันชั่วช้านั่นเอง
ฉะนั้น ความฝันนี้จะไม่ทำให้เกิดภัยใด
ๆ แก่มหาบพิตรอย่างแน่นอน เพราะสิ่งนี้จักบังเกิดขึ้นในอนาคต ขอเชิญมหาบพิตรตรัสเล่าความฝันประการที่ ๑๖
ต่อไปเถิด
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2564