๙. สระบัว
เมื่อพระบรมศาสดาทรงพยากรณ์นิมิตแห่งความฝันประการที่
๘ จบแล้ว พระเจ้า ปเสนทิโกศลก็ทรงเล่านิมิตแห่งความฝันประการที่ ๙
ให้พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าฟังต่อว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้ฝันเห็น สระโบกขรณีที่มีน้ำลึกและเต็มไปด้วยบัว ๕ สี
รอบ ๆ สระจะมีท่าขึ้นลงอยู่รอบด้าน ทำให้ฝูงสัตว์ต่างพากันลงมาดื่มน้ำโดยรอบ
แต่ทว่าน้ำที่กลางสระกลับขุ่นมัว ส่วนน้ำบริเวณขอบสระโดยรอบที่ฝูงสัตว์เหยียบย่ำกลับใสสะอาด
นิมิตแห่งความฝันนี้จะมีผลเป็นอย่างไรหรือพระเจ้าข้า”
เมื่อพระบรมศาสดาได้สดับตรับฟังนิมิตแห่งความฝันประการที่
๙ จบแล้ว พระองค์ก็ทรงพยากรณ์ความฝันว่า
“มหาบพิตร ผลของความฝันนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในสมัยของพระองค์
และในยุคสมัยที่พระศาสนาของเราเจริญรุ่งเรืองอยู่ แต่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตกาล เมื่อโลกถึงยุคเสื่อม คือ มนุษย์เสื่อมจากศีลธรรม
ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม
ที่เห็นแก่สินบนและมีความลำเอียง ชอบตัดสินความโดยไม่ชอบธรรม อีกทั้งยังไร้ซึ่งความเมตตา ไม่มีความอดทน ชอบขูดรีดภาษีจากประชาชน ราวกับเป็นเครื่องหีบอ้อยที่รีดน้ำอ้อยจนหมดเกลี้ยง
เมื่อพวกชาวเมืองถูกเก็บภาษีมากเข้า
ๆ จนไม่มีอะไรจะให้ พวกชาวเมืองจึงพากันอพยพหนีไปอยู่ชายแดน
ทำให้ภายในเขตเมืองหลวงว่างเปล่าจากผู้คน ส่วนทางเขตชายแดนจะหนาแน่นไปด้วยผู้คน เหมือนดั่งน้ำที่อยู่กลางสระขุ่น ส่วนน้ำที่อยู่ขอบสระกลับใสสะอาด
ฉะนั้น ความฝันนี้จะไม่ทำให้เกิดภัยใด
ๆ แก่มหาบพิตรอย่างแน่นอน เพราะสิ่งนี้จักบังเกิดขึ้นในอนาคต
ขอเชิญมหาบพิตรตรัสเล่าความฝันประการที่ ๑๐ ต่อไปเถิด”
(โปรดติดตามตอนต่อ)
วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2564