๘. ตุ่มน้ำว่างเปล่า
เมื่อพระบรมศาสดาทรงพยากรณ์นิมิตแห่งความฝันประการที่
๗ จบแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ทรงเล่านิมิตแห่งความฝันประการที่ ๘
ให้พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าฟังต่อว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
หม่อมฉันได้ฝันเห็นตุ่มน้ำใบใหญ่ใบหนึ่งมีน้ำอยู่เต็มเปี่ยม
โดยตุ่มน้ำใบนี้จะตั้งอยู่บริเวณประตูพระราชวัง และแวดล้อมไปด้วยตุ่มเปล่าเป็นจำนวนมาก
จากนั้น ก็มีผู้คนทุกชนชั้นมาจากทิศทั้ง
๔ พากันเอาหม้อใส่น้ำของตนซึ่งก็มีน้ำอยู่เต็มเปี่ยมมาเทน้ำใส่ตุ่มใบนั้น
จนทำให้น้ำที่เต็มตุ่มอยู่แล้วไหลล้นออกไป
แต่ทว่าคนเหล่านั้นก็ยังเทน้ำใส่ตุ่มใบนั้นอยู่เรื่อย
ๆ โดยไม่มีผู้ใดคิดที่จะเทน้ำใส่ตุ่มที่ว่างเปล่าเลยสักนิด
นิมิตแห่งความฝันนี้จะมีผลเป็นอย่างไรหรือพระเจ้าข้า”
เมื่อพระบรมศาสดาได้ฟังนิมิตแห่งความฝันประการที่
๘ จบแล้ว พระองค์ทรงพยากรณ์ความฝันว่า
“มหาบพิตร
ผลของความฝันนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในสมัยของพระองค์ และในยุคสมัยที่พระศาสนาของเราเจริญรุ่งเรืองอยู่
แต่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตกาล เมื่อโลกถึงยุคเสื่อม คือ ยุคที่มนุษย์เสื่อมจากศีลธรรม
เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด
อีกทั้งเป็นยุคที่พวกภิกษุผู้เคร่งครัดในศีลและข้อวัตรปฏิบัติมีน้อยกว่าผู้ที่ไม่เคร่งครัด
ในยุคนั้น ประเทศชาติจะหมดความหมาย คือ คนในยุคนั้นจะไม่เห็นแก่ชาติบ้านเมือง
จะเอาแต่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม
ส่วนพระราชาก็จะกำพร้าและตกยาก (หมายถึงกำพร้าจากคุณงามความดี ความถูกต้อง
และศีลธรรม)
เมื่อเป็นเช่นนั้น พระราชาก็จะบังคับให้ชาวเมืองทำการเพาะปลูกให้แก่ตนเอง
ฝ่ายชาวเมืองก็จะถูกส่วนกลางบังคับให้ขนข้าวเปลือกและพืชพันธุ์ธัญญาหารมาบรรจุไว้ในยุ้งฉางของพระราชาแต่เพียงอย่างเดียว
โดยยุ้งฉางของตนเองกลับว่างเปล่า ปราศจากพืชผลที่ตนเองเพาะปลูก เหมือนดั่งที่ผู้คนจากทุกสารทิศพากันมาเติมน้ำใส่ตุ่มที่เต็มแล้ว
โดยไม่เหลียวแลตุ่มที่ว่างเปล่าเลย
ฉะนั้น ความฝันนี้จะไม่ทำให้เกิดภัยใด
ๆ แก่มหาบพิตรอย่างแน่นอน เพราะสิ่งนี้จักบังเกิดขึ้นในอนาคต ขอเชิญมหาบพิตรตรัสเล่าความฝันประการที่ ๙
ต่อไปเถิด”
วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2564