๑๓.
ศิลาแท่งทึบลอยน้ำได้
เมื่อพระบรมศาสดาทรงพยากรณ์นิมิตแห่งความฝันประการที่
๑๒ จบแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ทรงเล่านิมิตแห่งความฝันประการที่ ๑๓
ให้พระบรมศาสดาฟังต่อว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้ฝันเห็นศิลาแท่งทึบที่มีขนาดใหญ่เท่ากับบ้านเรือน
อีกทั้งศิลาแท่งทึบนี้ยังสามารถลอยน้ำได้ราวกับเรืออีกด้วย นิมิตแห่งความฝันนี้จะมีผลเป็นอย่างไรหรือพระเจ้าข้า”
เมื่อพระบรมศาสดาได้ฟังนิมิตแห่งความฝันประการที่
๑๓ จบแล้ว พระองค์ก็ทรงพยากรณ์ความฝันว่า
“มหาบพิตร ผลของความฝันนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในสมัยของพระองค์
และในยุคสมัยที่พระศาสนาของเราเจริญรุ่งเรืองอยู่ แต่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตกาลเมื่อโลกถึงยุคเสื่อม
คือ ยุคที่มนุษย์เสื่อมจากศีลธรรม เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด
อีกทั้งมีภิกษุที่นอกรีตจำนวนมากกว่าภิกษุผู้เคร่งครัดในศีลและข้อวัตรปฏิบัติ
ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม
โดยพระราชาผู้เบาปัญญานี้
จะพระราชทานยศตำแหน่งอันทรงเกียรติให้แก่คนพาลที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม
พวกคนพาลตระกูลต่ำทรามเหล่านี้จะเป็นใหญ่เป็นโตในบ้านเมือง
ส่วนพวกที่อยู่ในตระกูลสูง หรือเหล่าคนดีที่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม ก็จะพากันตกยากและไม่มีใครเคารพยำเกรง
เพราะมหาชนทั้งหลายต่างให้ความเคารพนับถือคนที่มีอำนาจทางสังคม
คำพูดของเหล่าบัณฑิตนักปราชญ์ที่เคยหนักแน่นดั่งศิลาแท่งทึบก็จะเลื่อนลอยไร้ความหมายในยุคนั้น
เหมือนดั่งศิลาแท่งทึบขนาดใหญ่ที่สามารถลอยน้ำได้
ฉะนั้น ความฝันนี้จะไม่ทำให้เกิดภัยใด ๆ
แก่มหาบพิตรอย่างแน่นอน เพราะสิ่งนี้จักบังเกิดขึ้นในอนาคต
ขอเชิญมหาบพิตรตรัสเล่าความฝันประการที่ ๑๔ ต่อไปเถิด”
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564