ให้ทำธรรมะควบคู่กับงานหยาบไปด้วย
เพราะ...ถ้ารอให้งานหยาบเสร็จ
แล้วค่อยมาปฏิบัติธรรม
เราอาจจะ “ซี๊” ก่อน
เหมือนเวลาเรากินก๋วยเตี๋ยวก็ต้องหายใจไปด้วย
ไม่ใช่กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ แล้วค่อยมาหายใจ
ถ้าเรารองานหยาบเสร็จ เดี๋ยวเราจะซี้ก่อนที่จะได้ปฏิบัติธรรมกัน เพราะที่เราเข้ามาสู่องค์กร
เพื่อจะมาปฏิบัติธรรม หาพระรัตนตรัยภายในตัว เพื่อศึกษาวิชชาธรรมกาย
เราจึงมาอยู่ตรงนี้
ปีนี้หลวงพ่อ
72 แล้ว เราทุกคนต้องหวนไปทบทวนมโนปณิธานดั้งเดิม
ก่อนเข้ามาสู่องค์กรว่า ไม่ใช่เราไม่มีทางไป เราจะไปใช้ชีวิตทางโลกก็สามารถทำได้
แต่เราเลือกมาทางนี้
ซึ่งตอนนี้ถึงเวลาแล้ว
ถ้าอายุมากขึ้นความแข็งแรงจะลดลง จะมารอให้งานหยาบเสร็จ
แล้วค่อยทำงานละเอียดมันไม่ได้ เราต้องทำควบคู่กันไป ในจังหวะที่ยังแข็งแรงอยู่
เป็นบุญลาภอันประเสริฐ
ที่จะได้ช่วยกันประคับประคอง ให้ไปสู่เป้าหมาย ที่เราเข้ามาสู่องค์กร
ถ้าหากองค์กรเราใจหยุดได้
ใจสบายได้ มีความสุข จากการปฏิบัติธรรม การกระทบกระทั่งสูญพันธุ์เลย
จะทำภารกิจกันอย่างมีความสุข สนุกสนาน บุญบันเทิง “ข้างนอกเคลื่อนไหว
แต่ข้างในหยุดนิ่ง” ได้อย่างสมบูรณ์
จึงต้องมีโครงการติวธรรมะที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะให้เราทุกคนเข้าถึงธรรมได้อย่างง่ายๆ หลวงพ่อจะได้สมหวังเสียที
พอทุกคนในองค์กรมีความสุข
จากผลของการปฏิบัติธรรม ก็จะมีความยิ้มแย้มเบิกบาน ถ้าใครเห็นหมู่คณะเรา
ก็จะเกิดคำถามว่า ทำไมสมาชิกในองค์กร ถึงดูเบิกบาน เหมือนชาวสวรรค์
ก็อยากจะมาอยู่ด้วย อยากทำบุญด้วย ซึ่งจะเป็นองค์กรต้นแบบเลย
เมื่อทุกคนมีความสุข
คำว่า “สวรรค์บนดิน” ไม่ใช่คำขวัญหรูๆ แต่มีให้ดูจริงๆ
แล้วจะเป็นแรงบันดาลใจที่จะขยายไปสู่องค์กรอื่น การ change
the world ก็จะเกิดขึ้น
คุณครูไม่ใหญ่
3 ตุลาคม พ.ศ. 2559
เวลา 13:20
วันอังคารที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2560