ความตายไม่มีนิมิตหมาย
อย่าประมาทในชีวิต
คำไม่เล็กของคุณครูไม่ใหญ่มินิ 1
เกิดมาแล้วก็ต้องตั้งหน้าตั้งตา
สร้างความดีกันไม่ถอยหลัง
สังขารร่างกายของเรามีเวลาจำกัด
ชีวิตเราไม่คอยใครแล้ว
เรามีเวลาเหลืออยู่ในโลกนี้อีกไม่นานเท่าไร
ไม่นานก็ต้องจากโลกนี้ไปแล้ว
๔ มิถุนายน พ.ศ.
๒๕๔๓
แข่งกับวันเวลาของชีวิต
ที่ต้องแก่กันไปทุกวันทุกคืน
จะแก่กันไปฟรีๆ
หรือว่า...จะแก่บุญแก่บารมี
เราย่อมรู้ตัวของเราดี
๕ กรกฎาคม พ.ศ.
๒๕๔๑
ความแก่ ความชรา
ไม่ต้องหา ได้มาฟรีๆ
แต่บุญบารมี...เราต้องลงทุน
๑๕ มีนาคม พ.ศ.
๒๕๕๕
เวลาในโลกนี้เหลือน้อยลงไปทุกที
ทั้งความแก่ ความตาย
ก็คอยจ้องเล่นงานเราอยู่ตลอดเวลา
๑๕ มีนาคม พ.ศ.
๒๕๕๕
เราแก่กันไปทุกวัน
ร่างกายเสื่อมไปทุกวัน
เราพร้อมที่จะต้องตายเสมอ
แต่เตรียมพร้อม
สำหรับความตายแล้วหรือยัง
๑๘ ตุลาคม พ.ศ.
๒๕๔๘
ความตาย...ไม่มีสัญญาณอะไรเลย
๓ สิงหาคม พ.ศ.
๒๕๕๐
หายใจเข้าแล้วไม่หายใจออก...ก็ตาย
หายใจออกแล้วไม่หายใจเข้า...ก็ตาย
หรือไม่หายใจทั้งเข้าและออก...ก็ตาย
ความจริงมันเป็นอย่างนี้นะ
แต่เรามักจะมองข้ามไป
๑๖ กันยายน พ.ศ.
๒๕๔๔
มีชีวิตเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวัน
ก็เป็นของขวัญอันล้ำค่าแล้ว
สำหรับชีวิตที่เกิดมาแสวงหาพระนิพพาน
หรือเกิดมาสร้างบารมี
๑๙ สิงหาคม พ.ศ.
๒๕๔๖
ทุกเวลานาที มีสิ่งไม่คาดฝัน
และทุกวันก็ไม่มีความแน่นอน
ขอเพียงทำใจให้พร้อม
เพราะพรุ่งนี้...ไม่รู้จะเจออะไร
๒๙ ธันวาคม พ.ศ.
๒๕๔๗
เรามีสิทธิ์ตายได้ทุกวัน
อย่าประมาทกันนะ
๑๓ กรกฎาคม พ.ศ.
๒๕๔๖
ความตายไม่ใช่ของใหม่
แต่เป็นของเก่าที่เกิดขึ้นซ้ำๆ
นับครั้งไม่ถ้วน
๒๘ ธันวาคม พ.ศ.
๒๕๔๗
สิ่งทั้งหลายทั้งปวงในโลกนี้
จะมีชีวิต หรือไม่มีชีวิต
จะมีวิญญาณครอง หรือไม่มีวิญญาณครอง
ล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่
แล้วไปสู่จุดสลายทั้งสิ้น
๒๓ ตุลาคม พ.ศ.
๒๕๔๘
ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย
ไม่ว่าจะอยู่ในปฐมวัย
มัชฌิมวัย หรือปัจฉิมวัย
ทุกคนมีสิทธิ์ตายได้เท่ากัน
อย่าคิดว่า...คนแก่จะต้องตายก่อน
คนหนุ่มคนสาวหรือเด็ก
บางครั้งลูกก็ตายก่อนพ่อแม่
บางครั้งพ่อแม่ก็ตายก่อนลูก
นี้เป็น...สัจธรรม
๑๖ กันยายน พ.ศ.
๒๕๔๔
ใครๆ ก็ไม่อาจไปสู้รบปรบมือ
กับพญามัจจุราชได้
๒๓ มีนาคม พ.ศ.
๒๕๔๖
ความตายไม่มีนิมิตหมาย
เราต้องพร้อมเสมอที่จะไปสู่ปรโลก
๓ กรกฎาคม พ.ศ.
๒๕๔๘
เมื่อวันเวลาที่เหลืออยู่มีจำกัด
ความตายไม่มีนิมิตหมาย
ย่อมเป็นเครื่องเตือนใจเราว่า
เราจะประมาทในการดำเนินชีวิตไม่ได้
๔ มีนาคม พ.ศ.
๒๕๕๑
เราทุกคนต่างมีเวลาแห่งชีวิตเท่ากัน
การที่จะมีชีวิตอีกยาวนานแค่ไหน
ไม่ได้อยู่ที่ว่า ใครเกิดก่อน
เกิดหลัง
เพราะคนเกิดทีหลังตายก่อนก็มี
เราทุกคนมีชีวิตอยู่เพียงแค่ช่วงขณะ
ลมหายใจเข้าออกเท่านั้น
ดังนั้น ดีที่สุดเราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม
ก่อนที่มรณภัยจะมาถึง
๑ มิถุนายน พ.ศ.
๒๕๕๑
ความตายไม่มีนิมิตหมาย
สั่งสมบุญไว้เถิดประเสริฐนัก
เมื่อบุญส่งผลเราจะมีความสุข
ทั้งในมนุษย์และในเทวโลก
๑ พฤษภาคม พ.ศ.
๒๕๕๒
ความตาย
คือ
ส่วนหนึ่งของชีวิต
๒๗ มกราคม พ.ศ.
๒๕๔๘
อย่ามัวประมาทชะล่าใจว่า
เรายังหนุ่มแน่นอยู่
อีกนานกว่าเราจะตาย
นั่นเราคิดเอาเอง
ความตายไม่มีนิมิตหมาย
ไม่ได้บอกล่วงหน้า
๑๕ มีนาคม พ.ศ.
๒๕๕๕
การเดินทางครั้งสุดท้าย
เมื่อเราใกล้จะตาย
ช่วงนั้น...อย่าเอาใจไปเกาะอะไร
หยุดไปในกลางตัวนิ่งๆ
อย่างเดียว
๑๐ พฤษภาคม พ.ศ.
๒๕๔๕
การระลึกนึกถึงความตาย
จะทำให้เราเกิดหิริโอตตัปปะ
คือ ละอายและเกรงกลัวต่อการทำบาป
เนื่องจากเราตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม
เมื่อเรามีเวลาอยู่ในโลกนี้สั้นๆ
จึงควรจะสั่งสมแต่บุญ
๙ กันยายน พ.ศ.
๒๕๔๘
ต้องสั่งสมบุญทุกวัน
เพราะบุญกุศลกับธรรมะนี่แหละ
จะเป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง
ให้กับเราได้ในทุกสถานการณ์
ถ้าเรามีหลักยึดอย่างนี้
เราก็จะไม่หวาดหวั่นต่อมรณภัย
๑ มิถุนายน พ.ศ.
๒๕๕๑
ชีวิตมนุษย์สั้นนัก
ผู้ฉลาด ผู้ไม่ประมาทในชีวิต
ย่อมใช้วันเวลาให้เป็นประโยชน์
ในการสร้างบารมี
ด้วยการทำทาน รักษาศีล
และเจริญภาวนา
๑๖ กันยายน พ.ศ.
๒๕๔๔
เราเหลือเวลาไม่มากแล้ว
จะต้องเก็บเอาความดี
ทั้งทาน ศีล ภาวนา ไปให้มากที่สุด
เพราะเมื่อถึงวันสุดท้าย
ยิ้มสุดท้ายของเราจะได้สง่างาม
๒๑ กรกฎาคม พ.ศ.
๒๕๔๕
หมั่นสั่งสมบุญบารมี
ทั้งทาน ศีล ภาวนา ให้ยิ่งๆ
ขึ้นไป
วันสุดท้ายของชีวิตใจจะได้ใสๆ
เดินทางไกลไปสู่ปรโลก
ได้อย่างปลอดภัยและมีชัยชนะ
๒๓ มีนาคม พ.ศ.
๒๕๔๖
เราต้องจากโลกนี้ไป...อย่างสง่างาม
๓ กรกฎาคม พ.ศ.
๒๕๔๘
ถ้าไม่รู้หลักสูตรของชีวิต
ก่อนเดินทางไปสู่ปรโลก
ถ้าไม่รู้...ก็ทำไม่เป็น
ทำไม่เป็น...ก็อันตราย
๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.
๒๕๕๑
สูตรของชีวิตในวัฏฏะ
เขาตัดสินกันที่
ความใสกับความหมองของใจ
ถ้าใจใส...ก็ไปดี
ใจหมอง...ก็ไปไม่ดี
๖ พฤษภาคม พ.ศ.
๒๕๔๗
“ใจหมอง”
เพราะนึกถึงสิ่งที่เราดำเนินชีวิตผิดพลาด
ที่เราทำไม่ดีในอดีตมาฉายให้เห็น
๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.
๒๕๕๑
หมองกับใส
ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา
ตอนที่ยังแข็งแรงอยู่
๑ มิถุนายน พ.ศ.
๒๕๔๖
เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่นาน
แต่ชีวิตหลังความตายนั้นยาวนาน
๑๖ กันยายน พ.ศ.
๒๕๔๔
ทำใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ
เพราะไม่วันใดก็วันหนึ่ง
เราต้องไปสู่ปรโลก
วันนั้นเราจะต้องไปด้วยใจที่สว่างสุกใส
ไม่มีมลทินเลย
๑ กันยายน พ.ศ.
๒๕๔๕
ถ้าใจผ่องใส ไม่เศร้าหมอง
ก็เป็นรหัสผ่านไปสู่...โลกสวรรค์
ถ้าใจเศร้าหมองไม่ผ่องใส
ก็เป็นรหัสผ่านไปสู่...อบาย
๒๘ กรกฎาคม พ.ศ.
๒๕๔๖
การชิงช่วงช่วงชิงมีตลอดเวลา
ทุกอนุวินาที
ถึงวันสุดท้ายนั่นแหละ
๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.
๒๕๔๖
เราคงนึกไม่ถึงว่า
อดีตชาติที่ผ่านมา
เราเคยทำบาปอกุศลไว้มากน้อยเพียงใด
ซึ่งมันเป็นระเบิดเวลาของชีวิต
ที่แต่ละคนมีกันคนละหลายๆ
ลูก
พูดง่ายๆ คือ นับลูกไม่ถ้วน
คอยเรียงคิวรอวันเวลาที่จะระเบิด
อยู่ภายในตัวของเรา
๒๓ มีนาคม พ.ศ.
๒๕๔๖
วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560